การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียนวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง "พลศาสตร์"

Main Article Content

ปรียา อนุพงษ์องอาจ
เสมา สอนประสม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อออกแบบและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริม
การเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่อง "พลศาสตร์" และรวมทั้งศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาจากการใช้
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่อง "พลศาสตร์" และศึกษาระดับความ
พึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็น
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 จำนวน
48 คน ได้มาโดยวิธีสุ่มแบบเจาะจง โดยเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับ
เสริมการเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่อง"พลศาสตร์" โดยใช้โปรแกรม Dream Weaver, Photoshop, Macromedia
Flash Professional 8, Java Script แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกหัดระหว่างเรียน แบบทดสอบ
หลังเรียน ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 วิชา ฟิสิกส์ 1 (PHY 121) เรื่อง พลศาสตร์ และ
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่อง
"พลศาสตร์" สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ T-Test
ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS
ผลการวิจัยพบว่า
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่อง "พลศาสตร์" มีค่า
ประสิทธิภาพของบทเรียนเท่ากับ 80.98 และค่าประสิทธิผลเท่ากับ 0.62
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาที่เรียนเสริมด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง
"พลศาสตร์" สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักศึกษาที่ไม่ได้เรียนเสริมด้วยสื่อนี้ และพบว่ามีความ
แตกต่างของคะแนนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียน
วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่อง "พลศาสตร์" มีค่าระดับเฉลี่ยเท่ากับ 4.05 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.654
แสดงว่านักศึกษามีระดับความพึงพอใจต่อบทเรียนนี้ในระดับพึงพอใจมาก
4. ระดับความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียนวิชาฟิสิกส์ 1
เรื่อง "พลศาสตร์" ข้อที่ได้รับค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ประโยชน์ที่ได้รับจากบทเรียน โดยมี
คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ เท่ากับ 4.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.516 การแบ่งเนื้อหา การเรียงลำดับ
เนื้อหา มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงและต่อเนื่อง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.488
และแบบฝึกหัดมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาและมีประโยชน์ต่อนักศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.617

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อนุพงษ์องอาจ ป., & สอนประสม เ. (2025). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสำหรับเสริมการเรียนวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง "พลศาสตร์". วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 3(1), 15–25. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/jrtl/article/view/5157
ประเภทบทความ
Articles

เอกสารอ้างอิง

กฤษมันต์ วัฒนาณรงค์. 2542. "การหาประสิทธิภาพบทเรียน CAI." เทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา. 6(1) : 61-65.

สกล ดุริยศาสตร์. 2550. การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบ

วงกลม โดยใช้ผังกราฟฟิก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสุรนารีวิทยา อำเภอเมือง

จังหวัดนครราชสีมา (Online). http://www.thaiedresearch.org/result/detail.php?id=8253,

สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2551.

Goodman R.I., K.A. Fletcher and E.W. Schneider. 1980. "The Effectiveness Index as Comparative

Measure in Media Product Evaluation." Educational Technology 20 (09) : 30-34.

Frederick Dainton. 1972. "Teaching School Physics." A UNESCO Source Book.