ความพร้อมของนักศึกษาต่อการเรียนระบบ e - Learning

Main Article Content

วิภาดา คุปตานนท์
มุกดา โควหกุล

บทคัดย่อ

ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาความพร้อมของนักศึกษาตลอดจนปัญหาและ
อุปสรรคที่มีผลต่อการเรียนการสอนระบบ e-Learning โดยการเก็บข้อมูลจากนักศึกษามหาวิทยาลัย
รังสิต รวม 21 คณะ จำนวน 1,075 คน ทำการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม Cluster Sampling
ผลการศึกษาพบว่า
มีนักศึกษาตอบแบบสอบถามทั้งหมด จำนวน 993 คน คิดเป็นร้อยละ 92.37 ของประชากร
ทั้งหมด นักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 32.17 ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ e-Learning ผ่านทาง
เว็บไซต์ ในด้านความสนใจ นักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 63.10 สนใจที่จะเรียนในระบบ e-Learning
โดยมีการค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์เป็นบางเวลาเท่านั้น และนักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ
61.90 มีความสามารถใช้อินเทอร์เน็ตในระดับปานกลาง นักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 30.60 มีการเข้าถึง
ข้อมูลและพึงพอใจต่อเว็บไซต์ e-Learning อยู่ระดับปานกลางและนักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 38.20
ไม่เคยค้นหาแผนการเรียนทางอินเทอร์เน็ต และพบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 78.40 ไม่เคยอ่าน
สาระสำคัญของวิชาต่างๆ และไม่เคยทำการสอบผ่านทางอินเทอร์เน็ต ด้านความเข้าใจในการเรียน
ระบบ e-Learning นั้น นักศึกษาส่วนใหญ่มีความเข้าใจระดับปานกลาง จากผลทดสอบความรู้เกี่ยวกับ
e-Learning มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.81 จาก 10 คะแนน
ด้านความต้องการและคาดหวังในการเรียนระบบ e-Learning นักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ
54.50 ยังไม่แน่ใจในความต้องการดังกล่าว ทั้งนี้นักศึกษาร้อยละ 39.90 ต้องการเรียน โดยระบบ
การเรียนแบบ e-Learning เป็นเพียงช่องทางเพิ่มเติมการเรียนในชั้นเรียนมากกว่าเป็นช่องทางทดแทน
การเรียนในชั้นทั้งหมด
ส่วนปัจจัยส่งเสริมในการเรียนระบบ e-Learning นักศึกษาเห็นว่า ลักษณะเนื้อหาและสภาพ
แวดล้อมเป็นปัจจัยสนับสนุนระดับมาก รองลงมาคือ ปัจจัยด้านผู้เรียน ผู้สอนตามลำดับ
ส่วนปัจจัยที่เป็นอุปสรรคพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เห็นว่า ปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น จำนวน
คอมพิวเตอร์ ประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ต บุคลากรสนับสนุนการเรียนในห้องปฏิบัติการ และ
การเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตของมหาวิทยาลัยได้จากทุกที่นั้น เป็นอุปสรรคในระดับมาก
เมื่อทำการทดสอบความสัมพันธ์ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้นั้น ผลการวิเคราะห์พบว่า นักศึกษา
ที่ศึกษาอยู่ในคณะที่แตกต่างกัน มีการรับรู้ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอนระบบ e-Learning
แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่ทราบเรื่องการจัดตั้งศูนย์ และนโยบาย เป็น e-University ผ่านทางเว็บ
อาจารย์ สารรังสิต เพื่อนและสื่ออื่นๆ เช่น โทรทัศน์ เป็นต้น โดยพบว่า นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์
มีความสนใจมากกว่าคณะอื่น ๆ รองลงมา คณะบริหารธุรกิจ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ เป็นต้น
ส่วนระดับความเข้าใจในการเรียนระบบ e-Learning อยู่ระดับปานกลาง นักศึกษาแต่ละคณะ
มีความต้องการและคาดหวังในการเรียนระบบ e-Learning ไม่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่นักศึกษา
ยังไม่แน่ใจในความต้องการเรียนระบบ e-Learning แต่หากจะมีการเรียนการสอนด้วยระบบ e-Learning
นักศึกษาส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะใช้การเรียนระบบ e-Learning เป็นเพียงช่องทางเสริม หรือ
เพิ่มเติมการเรียนในชั้นเท่านั้น
จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้นำเสนอการบริหารจัดการเรียนการสอนแบบ e-Learning โดย
แยกเป็น 3 ระดับคือ
(1) ระดับมหาวิทยาลัย ควรให้ความสำคัญในการจัดทำแผนกลยุทธ์อย่างชัดเจน ทั้งนี้จาก
ผลการศึกษา ควรมีการแยกกลุ่มนักศึกษาที่จะเรียนด้วยระบบ e-Learning ออกจากนักศึกษากลุ่ม
ที่ต้องการเรียนในชั้นเรียนอย่างชัดเจน นั่นคือ มุ่งหานักศึกษากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ต้องการเรียนแบบ
e-Learning และรับนักศึกษาเหล่านั้นแยกระบบการเรียนการสอนออกจากนักศึกษาปกติ ซึ่งน่า
จะเกิดความสะดวกในการบริการการศึกษา และเป็นการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายและจำนวนนักศึกษาได้
อีกด้วย
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยควรจัดให้มีผู้รับผิดชอบและทำงานประสานกัน มีกระบวนการ
ที่จะทำให้การสอนด้วยระบบ e-Learning ส่งผลสัมฤทธ์ิ ได้แก่ การกระตุ้นให้คณะและอาจารย์เกิด
ความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เช่น การจัดอบรม เทคนิคต่างๆ ในการออกแบบสื่อการเรียน การ
กำหนดระยะเวลาที่เป็นเป้าหมายที่จะวัดผลสำเร็จของการเรียนตามแผนกลยุทธ์
(2) ระดับคณะ การสำรวจความเหมาะสมในการเรียนแต่ละวิชา การทดลองใช้กับนักศึกษา
จริงและติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
(3) ระดับนักศึกษา มีการกระตุ้นให้นักศึกษาติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษาผ่านทาง
อินเทอร์เน็ต การรับแผนการเรียน การสอบย่อย ส่งการบ้าน ส่งรายงาน และการศึกษาด้วยตนเอง
ในบางหัวข้อผ่านเว็บไซต์ที่อาจารย์ผู้สอนจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้มีการกำหนดเป็นจำนวนสัปดาห์ตาม
แผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย
ในส่วนปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ คือ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ได้แก่ คอมพิวเตอร์
อินเทอร์เน็ต บุคลากรสนับสนุน และการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตของมหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวก
และปัจจัยด้านอาจารย์ผู้สอน ได้แก่ ความสามารถจัดทำสื่อ การติดตามการเรียน ความเข้าใจระบบ
e-Learning ซึ่งสิ่งเหล่านี้มหาวิทยาลัยควรจะให้ความสำคัญและมีการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง
รวมถึงส่งเสริมให้อาจารย์มีความเข้าใจการเรียนการสอนระบบ e-Learning ที่จะนำไปสู่การพัฒนา
สื่อการสอนในระบบ e-Learning และการก้าวสู่ e-University ตามแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย
ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
คุปตานนท์ ว., & โควหกุล ม. (2025). ความพร้อมของนักศึกษาต่อการเรียนระบบ e - Learning. วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 2(1), 82–99. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/jrtl/article/view/5140
ประเภทบทความ
Articles

เอกสารอ้างอิง

เกศรา ชั่งชวลิต. (2547). การแสวงหาข่าวสาร การรับรู้ประโยชน์ และความพึงพอใจใน

การสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล. วิทยานิพนธ์ นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต (นิเทศศาสตร์

พัฒนาการ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชนินทร สุขเจริญ. (2548). ศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ตามอัธยาศัยด้วยระบบการเรียนรู้

ผ่านสื่ออิเล็กโทรนิกส์ของนักเรียน ชั้น ม.1/1 โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา เกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา)

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.

ทวีวัฒน์ วัฒนกุลเจริญ. (2547). การพัฒนารูปแบบการวัดประเมินตามสภาพจริง จากการเรียน

อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้วิธีการเรียนตามสถานการณ์ ที่ส่งผลต่อการรับรู้ความสามารถ

ของตนเองของผู้เรียนในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรดุษฎี-

บัณฑิต (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภัทระ เกิดอินทร์และปิยวิทย์ เอี่ยมพริ้ง. (2548). การพัฒนาระบบการเรียนรู้แบบออนไลน์ วิชา

การจัดและบริหารงานก่อสร้าง ตามหลักสูตรสภาสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2543:

กรณีศึกษาสถาบันราชภัฏอุบลราชธานี. งานวิจัย สำนักวิทยาบริการและเทคโนโลยี

สารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.

พีรพงศ์ แจ่มรังษี. (2548). ผลของรูปแบบการนำเสนอสตรีมมิ่งมีเดียการสอนแบบบรรยาย

ในการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนิสิตระดับปริญญา

บัณฑิต. ครุศาสตรมหาบัณฑิต (โสตทัศนศึกษา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุรเชษฐ พิทยาพิบูลพงศ์ . (2547). การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การเรียน

แบบออนไลน์ (e-Learning) ของนิสิตนักศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์

นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.