การพัฒนาทักษะการเขียนสารคดีโดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม สำหรับผู้เรียนระดับปริญญาตรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ ได้ดำเนินการตาม "หลักการวิจัยชั้นเรียน" คือ เน้นการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
และหาแนวทางที่จะพัฒนาการเรียนการสอนให้ดีขึ้น ซึ่งปัญหาสำคัญที่ต้องการแก้ไขคือ "ผู้เรียน
ขาดทักษะการนำไปใช้" จึงประยุกต์ใช้ทฤษฎีการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ได้แก่ แนวคิดเรื่อง "การวิจัย
เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR)" มาใช้ในวงการศึกษา โดยนำกระบวนการ PAR ของ Horton
และ Zacharakis-Jutz ซึ่งมี 3 ขั้นตอน ได้แก่ Study > Reflection > Action มาเป็นเครื่องมือในการสร้าง
รูปแบบการเรียนการสอนทุกบทเรียน หลังจากนั้น ผู้สอนได้วิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้นการจากการเรียน
การสอนดังกล่าว ใน 3 ด้าน คือ (1) ประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ด้วยผลคะแนนจากแบบฝึกหัด
ท้ายบท (2) วัดความพึงพอใจของผู้เรียนด้วยแบบวัดความพึงพอใจที่เป็นข้อคำถามอัตนัย และ (3)
วัดทักษะการนำไปใช้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ใน 5 มิติ ได้แก่ 3.1) วิเคราะห์จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3.2) วิเคราะห์จากเหตุผลที่ผู้เรียนพึงพอใจ 3.3) วิเคราะห์จากงานที่ผู้เรียนได้รับมอบหมาย 3.4)
วิเคราะห์จากโครงการฝึกปฏิบัติ และ 3.5) วิเคราะห์จากการประเมินตนเอง สุดท้ายจึงได้สรุปถึง
ผลการวิจัยด้านกระบวนการว่า กระบวนการ PAR เหมาะกับการนำไปใช้ในการเรียนการสอนหรือไม่
รวมถึงเหมาะกับเนื้อหา ผู้เรียน ผู้สอน และวิธีการสอนลักษณะใดมากที่สุด
ผลการวิจัยพบว่า
(1) ผลการวิจัยด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน: หลังจากผ่านการเรียนการสอนด้วย
กระบวนการ PAR ผู้เรียนส่วนใหญ่เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับ "ดีมาก"
(2) ผลการวิจัยด้าน ความพึงพอใจ: ผู้เรียนส่วนใหญ่ พึงพอใจการเรียนการสอนด้วย
กระบวนการ PAR
(3) ผลการวิจัย ด้านทักษะการนำไปใช้: เมื่อวิเคราะห์จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า
ผู้เรียนเกิดทักษะการนำไปใช้ในระดับ "มาก" และเมื่อวิเคราะห์จากเหตุผลที่ผู้เรียนพึงพอใจ พบว่า
ผู้เรียนเกิดทักษะการนำไปใช้ "มากที่สุด" ในขณะเดียวกัน เมื่อวิเคราะห์จากงานที่ผู้เรียนได้รับ
มอบหมายพบว่า ผู้เรียนเกิดทักษะการนำไปใช้ในระดับ "ดี" ส่วนผลการวิเคราะห์จากโครงการฝึก
ปฏิบัติก็พบว่า ผู้เรียน"เกิดทักษะการนำไปใช้ในเชิงลึก" และสุดท้าย เมื่อวิเคราะห์จากการให้ผู้เรียน
ประเมินตนเอง ปรากฏว่า ผู้เรียน "เกิดทักษะการนำไปใช้อย่างแท้จริง"
(4) ผลการวิจัยด้านกระบวนการ: กระบวนการ PAR สามารถนำไปใช้ในการเรียนการ
สอนเพื่อเพิ่ม "ทักษะการนำไปใช้" ให้กับผู้เรียนได้ดี โดยลักษณะเนื้อหาที่เหมาะสมกับกระบวนการ
PAR คือไม่ซับซ้อน หรือรวบรัดเกินไป และหากมีเนื้อหาเชื่อมโยงกัน ต้องทำให้ผู้เรียนเข้าใจ
ตั้งแต่ต้น ส่วนลักษณะผู้เรียนที่เหมาะสมกับกระบวนการPAR คือ เข้าเรียนสม่ำเสมอ รู้จักการทำงาน
เป็นทีม ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงมีวินัย และมีความรับผิดชอบสูง ทั้งนี้จำนวน
ผู้เรียนในชั้นเรียนต้องไม่มากเกินไป สำหรับลักษณะกิจกรรมในช่วง “ศึกษา”(Study) ที่เหมาะสม
กับการเรียนการสอน ได้แก่ การศึกษาจากเอกสารก่อนแล้วค่อยสรุปบทเรียน เป็นวิธีการที่ผู้เรียน
ชื่นชอบ และยังทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ค่อนข้างดี และหากมีบางบทเรียนที่ต้องเรียนซ้ำ ผู้สอนจะต้อง
ปรับเปลี่ยนรูปแบบเนื้อหาและเอกสารบ้าง ผู้เรียนจึงจะพึงพอใจ สุดท้าย ข้อควรคำนึงสำหรับผู้สอน
ที่จะนำกระบวนการ PAR ไปใช้ในชั้นเรียน คือ ทำความเข้าใจหลักการของกระบวนการ PAR ก่อน
แล้วค่อยนำไปใช้ให้บรรลุเป้าหมายที่เหมาะสม การวางแผนกิจกรรมต้องสอดคล้องกับปัญหา
ที่ต้องการแก้ไข และสอดคล้องกับเนื้อหาบทเรียน นอกจากนี้ จะต้องมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
รูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้เรียน อีกทั้ง การกำหนดเครื่องมือในการประเมินผลด้านต่างๆ
ต้องชัดเจนและควรจะทำทุกระยะ เพื่อจะได้เห็นพัฒนาการของผู้เรียน รวมถึงต้องเป็นคนช่างสังเกต
และคอยกระตุ้นให้ผู้เรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมตลอดเวลา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสารเอกสารอ้างอิง
เอ็ดเวิร์ด เดอโบโน,ดร.,(2546). คิดแนวข้าง. ฝ่ายวิชาการเอ็กซเปอร์เน็ท. ยุดา รักไทย, แปล.
กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์ Be Bright Books.
Servaes,J., Jacobson,T.L., and White,S.A. (1996). Participatory Communication for
Social Change. New Delhi: SAGE.
คุณครู.คอม. (2548). งานวิจัย. แหล่งที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2548 จาก
www.kunkroo.com/research1html
The Evergreen State College. (2548). Classroom Research: An Introduction. สืบค้นวันที่
พฤษภาคม พ.ศ. 2548 จาก www.evergreen.edu/washcenter/resources/acl/
ed.html
The University of Georgia. (2548). Classroom Research: As Close as your own
Students. สืบค้นวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2548 จาก www.uga.edu/DEPT/TIME/
issues/V02n1/1malcom.pdf