การศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงในเขตพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเฉลิมพระเกียรติวัดสวนขัน อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 188 คน ในเขตพื้นที่ตำบลสวนขัน อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยประยุกต์ใช้แบบสอบถามตามกรอบแนวคิดทฤษฎีการดูแลตนเองของโอเร็ม การศึกษาเก็บข้อมูลและวิเคราะห์การแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด-ต่ำสุด และค่าร้อยละ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง เช่น อายุ อาชีพ ระดับการศึกษา รายได้ และปัจจัยด้านสังคม รวมถึงปัจจัยเสริมที่มีผลต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง เช่น การออกกำลังกาย การบริโภคอาหาร การจัดการอารมณ์ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูแลตนเองจำแนกตามตัวแปรด้วยสถิติ One-way ANOVA ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง มักมีปัจจัยด้านสังคมและเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการดูแลตนเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้การสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการดูแลตนเองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การศึกษานี้สรุปได้ว่าการเสริมสร้างความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง และสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานโยบายสาธารณสุขในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิผล