วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข
https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JERPH_Yala
<p><strong><a href="https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JERPH_Yala/announcement/view/27"><img src="https://so12.tci-thaijo.org/public/site/images/sobreem/mceclip2-1497c2cfd674a48cad649e42eaef8cd3.png" /></a><br /><br />วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข<br /></strong> วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข (Journal of Education and Research in Public Health : JERPH) หมายถึง การศึกษาทางสาธารณสุขและการวิจัยทางสาธารณสุข เป็นวารสารที่มีการเผยแพร่ความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ผ่านบทความประเภทต่างๆ สู่สาธารณะในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-journal) <strong>โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญสาขาที่เกี่ยวข้องประเมินบทความจำนวน 3 ท่าน/บทความ แบบปกปิด 2 ทาง (Double blind)</strong></p> <p><strong>ISSN :</strong> 2985-0126 (Online)</p> <p><strong>กำหนดการออก : ราย 4 เดือน ออกปีละ 3 ฉบับ</strong><br /> ฉบับที่ 1 ประจำเดือน มกราคม - เมษายน <br /> ฉบับที่ 2 ประจำเดือน พฤษภาคม - สิงหาคม <br /> ฉบับที่ 3 ประจำเดือน กันยายน - ธันวาคม</p> <p><strong>การตีพิมพ์เผยแพร่ : <br /></strong> เผยแพร่ฉบับละ 5 - 7 บทความ</p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ :</strong> ไม่ได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ใดๆ ในทุกขั้นตอน <br /> (วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา สนับสนุนงบประมาณดำเนินงานจัดทำวารสาร และได้รับความอนุเคราะห์จากคณะผู้ประเมินบทความ โดยไม่มีค่าตอบแทน)</p> <p><strong><em>*วารสารนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อประเมินเข้าสู่ฐานข้อมูลดัชนีวารสารไทย (TCI)*</em></strong></p> <hr /> <p><strong>ขอบเขตการตีพิมพ์</strong></p> <p> วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข มีนโยบายรับตีพิมพ์บทความด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม สังคมศาสตร์ (Education, Health) <a href="https://drive.google.com/file/d/1daDXRktXPseTQQZIcmA_IKEBoYiVcx-f/view" target="_blank" rel="noopener">(ตามสาขาวิชาสำหรับวารสารในฐานข้อมูล TCI) </a> </p> <hr /> <p><strong>นโยบายการตีพิมพ์</strong></p> <p> วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข เป็นวารสารราย 4 เดือน ออกปีละ 3 ฉบับ (ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม - เมษายน ฉบับที่ 2 ประจำเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ฉบับที่ 3 ประจำเดือนกันยายน - ธันวาคม) จัดทำโดยวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา มีจุดมุ่งหมายในการตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ในรูปแบบบทความภาษาไทย ทั้งจากภายในและภายนอกวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา โดยดำเนินการจัดทำและเผยแพร่เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) หมายเลข ISSN : 2985-0126 (Online) จึงได้มีนโยบายในการจัดการวารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข ดังนี้</p> <p> 1. บทความที่จัดพิมพ์ในวารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุขได้รับการพิจารณากลั่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) <strong>โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญสาขาที่เกี่ยวข้องประเมินบทความจำนวน 3 ท่าน/บทความ แบบปกปิด 2 ทาง (Double blind)</strong><br /> <strong> บทความ</strong><br /> ภายในวิทยาลัย : ประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภายนอก <br /> หน่วยงานภายนอก : ประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องจากภายในวิทยาลัยฯ และ/หรือหน่วยงานภายนอก<br /> 2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นบทความจากทั้งบุคลากรภายในและบุคลากรภายนอกวิทยาลัยฯ ที่ไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบับอื่นๆ หากตรวจสอบพบว่ามีการจัดพิมพ์ซ้ำซ้อนถือเป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์แต่เพียงผู้เดียว<br /> 3. บทความ ข้อความ ภาพประกอบ และตารางประกอบที่ลงพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นตามเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์เพียงผู้เดียว<br /> 4. บทความที่ตีพิมพ์ลงในวารสารจะต้องมีรูปแบบตามที่วารสารกำหนดเท่านั้น</p> <hr /> <p><strong>ประเภทของบทความที่ตีพิมพ์</strong></p> <ol> <li>บทความวิจัย (Research article) เป็นบทความทั้งวิจัยพื้นฐานและวิจัยประยุกต์</li> <li>บทความวิชาการ (Academic article) เป็นบทความที่วิเคราะห์ประเด็นตามหลักวิชาการ โดยมีการทบทวนวรรณกรรมและวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ</li> <li>บทบรรณาธิการ (Editorial)</li> <li>บทความปริทัศน์ (Review article) เป็นบทความที่รวบรวมความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งจากวารสารหรือหนังสือต่างๆ นำมาเรียบเรียง วิเคราะห์ วิจารณ์ให้เกิดความกระจ่างมากในประเด็นนั้นๆมากยิ่งขึ้น</li> <li>บทความพิเศษ (Special article) เป็นบทความที่แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่อยู่ในความสนใจเป็นพิเศษ หรือเป็นบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ</li> <li>รายงานเบื้องต้น (Short report or pilot study) เป็นการนำเสนอรายงานผลการศึกษาวิจัยที่ทำเสร็จยังไม่สมบูรณ์และต้องศึกษาต่อเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมหรือเป็นการศึกษาเบื้องต้นที่ผลการศึกษาไม่พบความสัมพันธ์ในสิ่งที่ศึกษามีลำดับเนื้อเรื่องเหมือนนิพนธ์ต้นฉบับ</li> <li>กรณีศึกษา (Case study) เป็นการศึกษาสถานการณ์ที่น่าสนใจและมีผลกระทบกับสุขภาพ หรือเป็นการนำเสนอผู้ป่วยที่ไม่ธรรมดาหรือกลุ่มอาการโรคใหม่ที่ไม่เคยมีรายงานมาก่อน หรือพบไม่บ่อย</li> </ol> <hr /> <p><strong>ภาษาที่รับตีพิมพ์บทความ</strong></p> <p>ภาษาไทย</p> <hr /> <p> </p>
Sirindhorn College of Public Health Yala
th-TH
วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข
2985-0126
-
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของผู้สูงอายุในตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด
https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JERPH_Yala/article/view/1445
<p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบตัดขวาง (Cross-sectional descriptive study) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพ และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ จำนวน 201 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติไคสแควร์ (Chi-square test) ผลการศึกษา พบว่า ผู้สูงอายุที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 62.2 อายุอยู่ในช่วงระหว่าง 60 – 64 ปี ร้อยละ 73.6 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 84.1 สถานภาพการสมรส ร้อยละ 62.2 ระดับการศึกษาสูงสุด อยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 35.8 ประกอบอาชีพ ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 26.9 มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 63.7 มีทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพระดับสูง ร้อยละ 57.2 และมีพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพระดับปานกลาง ร้อยละ 63.7 ผลการศึกษาความสัมพันธ์ พบว่า เพศ อาชีพ ทัศนคติต่อการดูแลสุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์กับการดูแลทันตสุขภาพของผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (<em>p</em>-value < 0.05) จากผลการวิจัยนี้ แนะนำให้ผู้ที่ปฏิบัติงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องมีการเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่ผู้สูงอายุ เพื่อเสริมสร้างการป้องกันและความตระหนักในการดูแลทันตสุขภาพต่อผู้สูงอายุ</p>
ศรันย์ บุญสร้าง
Copyright (c) 2024 วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-09-02
2024-09-02
2 3
209
224
-
ประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลหญิงตั้งครรภ์ต่อภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ด้านความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติตัวของหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์โรงพยาบาลลำทับ จังหวัดกระบี่
https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JERPH_Yala/article/view/1548
<p>การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลองนี้ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการดูแลหญิงตั้งครรภ์ต่อภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดด้านความรู้ ทัศนคติ ผลการปฏิบัติตัวของหญิงที่มาฝากครรภ์โรงพยาบาลลำทับ จังหวัดกระบี่ จำนวน 24 ราย กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์ในอำเภอลำทับที่มารับบริการแผนกสูติกรรมโรงพยาบาลลำทับ อายุครรภ์ 28 - 34 สัปดาห์ ได้รับการดูแลตามโปรแกรมการดูแลหญิงตั้งครรภ์ต่อเนื่องคนละ 2 สัปดาห์ คำนวณโดยใช้โปรแกรม G*Power เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่โปรแกรมการดูแลหญิงตั้งครรภ์ต่อภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามความรู้ 3) แบบสอบถามทัศนคติ 4) แบบสอบถามการปฏิบัติตัว และ 5) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ โปรแกรมการดูแลหญิงตั้งครรภ์ วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Paired t-test ผลการวิจัย พบว่า หลังการใช้โปรแกรมหญิงตั้งครรภ์มีความรู้ ทัศนคติ และผลการปฏิบัติตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (<em>p</em>-value < 0.001) ดังนั้นโปรแกรมการดูแลหญิงตั้งครรภ์ต่อภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดควรดำเนินการตามโปรแกรมต่อไปในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องในมารดาตั้งครรภ์ทุกรายอย่างครอบคลุม เพื่อป้องกันการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และลดภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดก่อนกำหนดได้อย่างทันท่วงที</p>
สุกัลยา ลือศิริวัฒนา
Copyright (c) 2024 วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-11-22
2024-11-22
2 3
225
237