แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองเก่าเวสาลี ตำบลสำโรงชัย อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบริบทเชิงพื้นที่ 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองเก่าเวสาลี ตำบลสำโรงชัย อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ คณะผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จำนวน 7 คน ประชาชนในพื้นที่ตำบลสำโรงชัย จำนวน 5 คน และนักท่องเที่ยว จำนวน 5 คน คัดเลือกด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม และการสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1. บริบทเชิงพื้นที่เมืองเก่าเวสาลี บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนาและตั้งใกล้กับถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน โดยในบริเวณพื้นที่เมืองเก่านั้นจะประกอบไปด้วยซุ้มประตูทางเข้า อุโบสถ์ บ่อน้ำมนต์ ป้ายผังเมืองเก่าเวสาลี หอสมุดหรือกุฏิฤๅษี พระวิหาร และ สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีสะพานไม้อยู่ทางด้านหน้า 2. ปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองเก่าเวสาลี มีดังนี้ (1) ด้านความพร้อมในการพัฒนา ได้แก่ มีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ขาดการสนับสนุนงบประมาณในหลายด้าน รวมถึงขาดสิ่งอำนวยความสะดวกและ สิ่งดึงดูดใจ (2) ด้านการมีส่วนร่วมในการพัฒนา ได้แก่ กิจกรรมดำเนินไปอย่างไม่ต่อเนื่อง ไม่มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่ชุมชน และหน่วยงานหรือชุมชนขาดโอกาสในการนำเสนอความคิดเห็นหรือ มีส่วนร่วมในกระบวนการ และ(3) ด้านการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่อื่น ๆ ขาดความต่อเนื่อง และไม่มีการประชาสัมพันธ์ในหลายภาษา3. แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองเก่าเวสาลี มีดังนี้ (1) ด้านความพร้อมในการพัฒนา ควรมีการส่งเสริมและจัดการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง โดยต้องมีการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การอบรมบุคลากร รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในพื้นที่ (2) ด้านการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยว ควรนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระจายข้อมูลข่าวสาร และจัดการประชุมในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นได้ แม้ไม่สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าความคิดเห็นของประชาชนได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง และ(3) ด้านการประชาสัมพันธ์ ควรนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยว พร้อมทั้งผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ที่สามารถรองรับได้หลายภาษา เพื่อให้สามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวจากหลากหลายกลุ่ม และสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้อย่างเหมาะสม