นวัตกรรมการจัดการกระบวนการให้บริการประชาชนของสำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ (1) เพื่อประเมินผลของการนำนวัตกรรมการจัดการกระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติ (2) เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติ มีความแตกต่างกันเมื่อจำแนกด้วยลักษณะประชากรของกลุ่มตัวอย่าง และ (3) เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติกับปัจจัยที่มีผลต่อการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน

          การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนที่มาใช้บริการของสำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน จำนวน 10,110 ราย กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 360 คน ได้แก่ ประชาชนที่มาใช้บริการของสำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าที การวิเคราะห์ความเบี่ยงเบน และสหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัย (1) ด้าน การนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติ พบว่าความสำเร็จของการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติ อยู่ในระดับมากที่สุด (2) ด้าน เปรียบเทียบผลลัพธ์ของการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ (3) ด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชน สำนักงานที่ดินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติกับปัจจัยที่มีผลต่อการนำนวัตกรรมการจัดการ กระบวนการให้บริการประชาชนพบว่าเป็นเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ