การท่องเที่ยวเชิงพุทธปราสาทกู่กาสิงห์ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การท่องเที่ยวเชิงพุทธหรือเชิงศาสนา เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวยังศาสนาสถาน เพื่อเยี่ยมชมหรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นมัสการศาสนสถาน และครูบาอาจารย์ รวมถึงการทำกิจกรรมด้านศาสนา ปราสาทกู่กาสิงห์ เป็นศาสนสถานตามนัยความหมายการท่องเที่ยวเชิงพุทธ เป็นโบราณสถานสถาปัตยกรรมศิลปะเขมรแบบบาปวน ในศตวรรษที่ 16 สร้างขึ้นเป็นเทวสถานในลัทธิไศวนิกาย เพื่ออุทิศถวายแด่พระอิศวรเทพเจ้าสูงสุด มีปรางค์ 3 องค์ ประกอบด้วย 1) กลุ่มปราสาทประธาน 2) บรรณาลัย และ3) โคปุระ (ซุ้มประตู) ซึ่งทำให้เกิดคุณค่าของการท่องเที่ยวปราสาทกู่กาสิงห์ ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) คุณค่าด้านจิตใจ ชาวบ้านมีความศรัทธาต่อปราสาทกู่กาสิงห์ ได้มาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นที่พึ่งทางจิตใจ และการทรงเจ้าเข้าผี ซึ่งเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลในการสร้างขวัญกำลังใจ 2) คุณค่าด้านสังคม 3 ประการ คือ (1) การสืบสานประเพณีวัฒนธรรม เช่น การประกอบพิธีกรรม สรงกู่ ระหว่างเดือนเมษายน–พฤษภาคมของทุกปี (2) ความสามัคคี เช่น การเสี่ยงทายของชาวบ้านนําน้ำอบน้ำหอมไปรดสรงตามกู่ ชุมชนร่วมกันจัดงานเทศกาลการท่องเที่ยวกินข้าวพาแลงด้วยความพร้อมเพรียง (3) การพัฒนาชุมชน การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบๆ ปราสาทและบริเวณใกล้เคียง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว 3) คุณค่าด้านศิลปวัฒนธรรม ลวดลายสลัก ลายกลีบบัว และลายกนก ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม นับได้ว่าปราสาท กู่กาสิงห์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธหรือเชิงศาสนา สำหรับมวลมนุษยชาติอีกแห่งหนึ่งอย่างภาคภูมิใจ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. (2545). กรมศิลปากรกับการบริหารจัดการทรัพย์สินทางศิลปวัฒนธรรม อดีตปัจจุบันอนาคต. กรุงเทพฯ: กระทรวงวัฒนธรรม.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2543). คือถิ่นฐานคือบ้านเรา อบต. กับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: แปลนโมทิฟ.
______. (2549). การส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ. กรุงเทพฯ: มปท.
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. (2540). วิถีไทยการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิซซิ่ง.
ชนัญ วงษ์วิภาค. (2552). การท่องเที่ยววัฒนธรรม. คณะโบราณคดี. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชยาภรณ์ ชื่นรุ่งโรจน์. (2535). วัดกับการท่องเที่ยว. จุลสารการท่องเที่ยว. 18(1), 4–9.
นิคม จารุมณี. (2536). การท่องเที่ยวและการจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว.กรุงเทพฯ:โอเดียนสโตร์.
นำชัย ทนุผล. (2545). พัฒนาชุมชนหลักการและยุทธวิธี. เชียงใหม่: ภาควิชาส่งเสริมการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2542). การวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน. เอกสารประกอบการสอน : คณะมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ประเวศ วะสี. (2547). ธรรมชาติของสรรพสิ่งการเข้าถึงความจริงทั้งหมด. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
พระมหาสุทิตย์ อบอุ่น. (2542). การท่องเที่ยวแนวพุทธ. จุลสารการท่องเที่ยว. 18(1), 4–9.
ยุกติ มุกดาวิจิตร. (2548). อ่านวัฒนธรรมชุมชน. วาทศิลป์และการเมืองของชาติพันธุ์นิพนธ์แนววัฒนธรรมชุมชน. กรุงเทพฯ: ฟ้าเดียวกัน.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.
วิรุณ ตั้งเจริญ และคณะ. (2544). การรับรู้และจินตภาพ. กรุงเทพฯ: สันติศิริ การพิมพ์.
ศรีศักร วัลลิโภดม. (2544). พัฒนาการทางสังคม-วัฒนธรรมไทย ความรู้เรื่องเมืองไทย เล่มที่ 1. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : อมรินทร์.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). (2546). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Bhatia. A.K. (1983). Tourism Development: Principle and Practices. New Delhi: 2 nd Steering. Publishers Private Limited.
Google. (2566). ภาพปราสาทกู่กาสิงห์. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566, จาก https://www. google.com/search?q=% =ภาพปราสาทกู่กาสิงห์.