พุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาล ตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ และ 3. เพื่อศึกษาแนวทางาพุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.76) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านที่มีระดับสูงที่สุดคือ ด้านการควบคุม (= 4.87) รองลงมาคือด้านการวางแผน (= 4.76) และด้านที่น้อยที่สุดคือด้านการประสานงาน(= 4.73) ตามลำดับ ส่วยประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด (ตามหลักอิทธิบาทธรรม) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านที่มีระดับสูงที่สุดคือ ด้านฉันทะ (การบริหารงานด้วยความรักในหน้าที่) (= 4.85) รองลงมาคือ ด้านจิตตะ (การบริหารงานด้วนความเอาใจใส่) (= 4.70) ถนัดมา คือด้านวิริยะ (การบริหารงานด้วยความเพียรพยายาม) (= 4.68) และด้านที่น้อยที่สุดคือ ด้านวิมังสา (การบริหารงานด้วยความเข้าใจ) (= 4.62) ตามลำดับ 2. ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประสิทธิภาพการบริหารงาน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .03* และประชาชนที่มีรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประสิทธิภาพการบริหารงาน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .02* ส่วนประชาชนที่มี เพศ ระดับการศึกษา และอาชีพ มีความคิดเห็นต่อระสิทธิภาพการบริหารงานของเทศบาลตำบลนิเวศน์ ไม่แตกต่างกันจึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย