แนวทางพัฒนาการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครพนม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการร่วมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครองในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (2) ประเมินความต้องการจำเป็นการร่วมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครองในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (3) พัฒนาแนวทางพัฒนาการร่วมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครองในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ หัวหน้าสถานศึกษา ครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ปกครอง จำนวน 504 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้เกณฑ์ร้อยละ ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือทีใช้มีจำนวน 4 ฉบับ คือ 1) แบบสอบถามสภาพปัจจุบัน มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .95 2) แบบสอบถามสภาพที่พึงประสงค์ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .98 3) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง 4) แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาการร่วมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1) สภาพปัจจุบันของการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้ปกครอง โดยรวมอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ความต้องการจำเป็นมีค่าสูงกว่าค่าโดยรวม ได้แก่ ด้านการร่วมส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา และด้านการร่วมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ 3) แนวทางพัฒนามี 4 ด้านประกอบด้วย (1) ด้านส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนที่เพียงพอ (2) ด้านการส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ให้ความรัก ความอบอุ่น (3) ด้านการส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม ผู้ปกครองควรสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวให้กับเด็กปฐมวัย ส่งเสริมให้เด็กมีความรับผิดชอบ มีวินัย รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความเป็นไทย และ 4) ด้านการส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดและสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ผลการประเมินแนวทางพัฒนาโดยรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2564). การส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของสถานศึกษาระดับปฐมวัยสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : กระทรวงมหาดไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2564). รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด
กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2545). การศึกษาสำหรับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิชย์.
จันทร์เพ็ญ ตู้ประสิทธ์. (2561). แนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาการเรียนรูของเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลโนนสมบรูณ์ จังหวัดบึงกาฬ. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ชนิดา ชะตา. (2561). บทบาทการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมศักยภาพของเด็กปฐมวัยในโรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ณิชาภัทร คงชุม, ธีระพงษ์ สมเขาใหญ่ และสำเริง จันชุม. (2564). การพัฒนาการมีส่วนร่วมของ ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในยุคประเทศไทย 4.0 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพังไกร จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. 5(2), 227-228.
ดวงนภา ศรีเมือง. (2559 ). ความสำคัญของครูปฐมวัยและบทบาทหน้าที่. สืบค้นเมื่อ 14 พฤษภาคม 2567,จาก https://www.gotoknow.org/posts/619371.
ธันย์ สุภาแสน. (2563). การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดกิจกรรมพัฒนาการเด็กปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลเอกชน จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ยุพา ชัยเพ็ชร. (2561). พฤติกรรมการบริโภคอาหารและการเจริญเติบโตของเด็กวัยเรียนในเขตบริการสุขภาพที่ 6.วารสารกรมอนามัย ส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี. 41(4) : 33-47.
เยาวภา เดชะคุปต์. (2548). การจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : เอพีกราฟฟิกส์ดีไซน์.
รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ. (2562). การพัฒนาเด็กปฐมวัยแบบองค์รวม. กรุงเทพฯ: ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
วิมลรัตน์ แก้ววงศ์ และสุมาลี ศรีพุทธรินทร์. 2565. สภาพและความต้องการจำเป็นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาการศึกษาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขตอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม. วารสารวิจัยและพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง, 1(2), 11–18.
ศศิพันธุ์ เปี๊ยนเปี่ยมสิน และคณะ. (2559). ทักษะทางสังคมและการจัดประสบการณ์การเรียนรู้. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต.
สมนึก ภัททิยธนี. (2567). การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 14. กาฬสินธุ์ : โรงพิมพ์ประสานการพิมพ์.
สมบัติ นามบุรี. (2562). การบริหารและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2551). คู่มือเทคนิคและวิธีการบริหารจัดการสมัยใหม่ตามแนวทางการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การบริหารการเปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.).
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2566). การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครพนม. (2567). รายงานประจำปี 2566. นครพนม : สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครพนม.
สุวิมล หงส์วิไล. (2559). การมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.