การพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบุคลากรธุรกิจคาร์แคร์ จังหวัดสมุทรปราการ

Main Article Content

ดารณี เสสะเวช

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของลูกค้าต่อ คุณภาพในการให้บริการของธุรกิจคาร์แคร์ ในจังหวัดสมุทร ปราการ และเพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของลูกค้าต่อ คุณภาพในการให้บริการของธุรกิจคาร์แคร์ ในจังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 400 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.979 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การแจกแจงความถี่ (Frequencies) คำนวณค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตร ฐาน (Standard Deviation) การทดสอบเพื่อหาค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) โดยกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างของตัวแปร และหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Pearson Correlation)


ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 55.8 อายุ 31- 40 ปี      คิดเป็นร้อยละ 47.8 มีสถานภาพโสด จำนวน 230 คน คิดเป็นร้อยละ 57.5 ระดับ ปริญญาตรี จำนวน 266 คน คิดเป็นร้อยละ 66.50  ประกอบอาชีพบุคลากรเอกชน จำนวน 158 คน คิดเป็นร้อยละ 39.50 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 – 40,000 บาท จำนวน114 คน คิดเป็นร้อยละ 28.50


ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีระดับความสัมพันธ์ต่อคุณภาพการให้บริการของบุคลากรธุรกิจคาร์แคร์ ในจังหวัดสมุทรปราการ ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่  เพศ และระดับการศึกษา  ไม่ยอมรับสมมติฐาน ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีระดับความสัมพันธ์ต่อคุณภาพการให้บริการของบุคลากรธุรกิจคาร์แคร์ ในจังหวัดสมุทรปราการ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่  อายุ สถานภาพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ และความถี่ในการใช้บริการ พบว่า ระดับความสัมพันธ์ต่อคุณภาพการให้บริการของบุคลากรธุรกิจคาร์แคร์ ในจังหวัดสมุทรปราการ ยอมรับสมมติฐาน

Article Details

บท
บทความวิจัย