วารสารการบริหารและพัฒนาวิทยาลัยพิชบัณฑิต
https://so12.tci-thaijo.org/index.php/pcbu
วิทยาลัยพิชญบัณฑิต
th-TH
วารสารการบริหารและพัฒนาวิทยาลัยพิชบัณฑิต
-
ความต้องการจำเป็นของการนิเทศภายในแบบร่วมมือ ของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2
https://so12.tci-thaijo.org/index.php/pcbu/article/view/5748
<p> การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และ สภาพที่พึงประสงค์ และศึกษาความต้องการจำเป็น ของการนิเทศภายในแบบร่วมมือของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารและครูผู้สอนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 จำนวน 186 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางเทียบหากลุ่มตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน ผู้บริหารเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ครูผู้สอนใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามตอบสนองคู่ (Dual – Response Format) แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 1.00 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับสภาพปัจจุบัน เท่ากับ 0.902 สภาพที่พึงประสงค์ 0.973 .สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนี PNI modified</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพปัจจุบัน ของการดำเนินงานการนิเทศภายในแบบร่วมมือของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 อยู่ในระดับปนกลาง ค่าเฉลี่ย ( = 3.46, S.D. = 0.78) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ด้านการให้ความช่วยเหลือแก่ครู โดยตรง รองลงมาคือด้านการพัฒนาหลักสูตร และมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือด้านการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม (2) สภาพที่พึงประสงค์ ของการดำเนินงานการนิเทศภายในแบบร่วมมือของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ( = 4.51, S.D. = 0.71) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือด้านการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน รองลงมาคือด้านการพัฒนาหลักสูตร และมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือด้านการเสริมประสบการณ์ทางวิชาชีพ (3) ความต้องการจำเป็นของการดำเนินงานการนิเทศภายใน แบบร่วมมือของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 เรียงลำดับความสำคัญดังนี้ ด้านการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม มีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นมากที่สุด (PNI <sub>Modified </sub>= 0.35) รองลงมาคือ ด้านการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน (PNI<sub> Modified</sub> = 0.31)และด้านที่มีความต้องการจำเป็นน้อยที่สุดคือด้านการให้ความช่วยเหลือแก่ครู โดยตรง (PNI<sub> Modified</sub> = 0.26)</p>
อัจฉราพร งามสง่า
อดิศร ศรีเมืองบุญ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
2025-12-11
2025-12-11
8 2
1
14
-
ภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู
https://so12.tci-thaijo.org/index.php/pcbu/article/view/5752
<p> การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา และ 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู จำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ในการทำงาน และระดับการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู ปีการศึกษา 2565 จำนวน 322 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของเชฟเฟ่ (Scheffe') ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการมีวิสัยทัศน์ดิจิทัล และ 2. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ในการทำงาน และระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนจำแนกตามตำแหน่ง โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน</p>
ณัฏฐณิชา จำปาอ่อน
สมาน ประวันโต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
2025-12-11
2025-12-11
8 2
15
28