ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุก ของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ

บทคัดย่อ

    การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุกของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เจ้าของกิจการธุรกิจโลจิสติกส์ ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 168 บริษัท กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรทาโรยามาเน่ (Taro Yamane) มีระดับค่าความเชื่อมั่นที่ 95% ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 119 คน ทำการรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และทำการทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธีนำตัวแปรเข้าทั้งหมด (Enter Regression) ผลการวิจัย สรุปได้ ดังนี้
     1. ระดับปัจจัยภายในองค์การของผู้ประกอบ การในจังหวัดสมุทรปราการ ระดับปัจจัยภายในองค์การของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านบุคลากรด้านจัดการ ด้านวัสดุอุปกรณ์
เครื่องมือ ด้านการบริการ และด้านโครงสร้างองค์กร
     2. ผลกระทบต่อต้นทุนด้านโลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุก ของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ ระดับผลกระทบต่อต้นทุนด้านโลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุก ของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการขนส่ง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง และ ด้านการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
    3. ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุกของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยด้านการบริการ ด้านบุคลากร ด้านวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ ส่งผลทางบวกต่อต้นทุนโลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุกของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ ส่วนปัจจัยด้านโครงสร้างองค์กรและด้านการบริหารจัดการ ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน โลจิสติกส์การขนส่งโดยรถบรรทุกของผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรปราการ .05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ โดยปัจจัยภายในองค์การทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริการ ด้านโครงสร้างองค์กร ด้านบุคลากร ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านการจัดการสามารถทำนายความถูกต้องผลการวิเคราะห์ของตัวแปรตาม ได้ร้อยละ 61.7