พฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ของพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

Main Article Content

พรสวัสดิ์ นวพล
พินัย วิถีสวัสดิ์

บทคัดย่อ

      การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานครและเพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภา
กรุงเทพมหานครของพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรใช้ประชาชนในพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จาก 20 หมู่บ้าน จำนวน 55,401 คน นำมาเข้าสูตรการคำนวณของทาโร่ ยามาเน่ ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 397 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามเชิงสำรวจ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้วิธีการสุ่มแบบบังเอิญ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่า t-test (Independent Samples Test) และ ค่า F-test (One-Way ANOVA) ถ้าหากพบความแตกต่างที่นัยสำคัญใช้วิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe’s)
     ผลการวิจัยพบว่า
     1. ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็น เพศชายมากที่สุด จำนวน 209 คน คิดเป็น ร้อยละ 52.6 รองลงมา เป็นเพศหญิง จำนวน 188 คน คิดเป็นร้อยละ 47.4 มีอายุระหว่าง 21-40 ปี มากที่สุด จำนวน 229 คน คิดเป็น ร้อยละ 57.7 การศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีมากที่สุด จำนวน 142 คน คิดเป็น ร้อยละ 35.8 ประกอบอาชีพเป็นพนักงาน/ลูกจ้างของเอกชน มากที่สุดจำนวน 128 คน คิดเป็น ร้อยละ 32.2 มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทมากที่สุด จำนวน 191 คน คิดเป็นร้อยละ 48.1 ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รับข่าวสารผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียมากที่สุด จำนวน 200 คน คิดเป็น ร้อยละ 50.4 และผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ จำนวน 217 คน คิดเป็น ร้อยละ 54.7
     2. พฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานครพบว่า ระดับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนากรุงเทพมหานคร ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก รองลงมา ได้แก่ ด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก รองลงมา ด้านการมีส่วนร่วมเผยแพร่ข่าวสารของผู้สมัครและการเลือกตั้ง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก รองลงมา ด้านการมีส่วนร่วมดำเนินการเลือกตั้ง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก รองลงมา ด้านการมีส่วนร่วมในการวางแผนและการตัดสินใจ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ด้านการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและประเมินผล ตามลำดับ
     3. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ช่องทางการรับข่าวสาร และความถี่ในการรับข่าวสารที่ต่างกัน พฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

บท
บทความวิจัย