การศึกษาสุขภาพองค์กรของโรงเรียนในเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับสุขภาพองค์กรของโรงเรียนในเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับสุขภาพองค์กรจำแนกตาม เพศ ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดของโรงเรียนในเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสุขภาพองค์กรของโรงเรียนในเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น 0.96 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนในเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานคร ในปีการศึกษา 2565 รวมทั้งสิ้น 216 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์โดยใช้การทดสอบที (Independent Sample t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับสุขภาพองค์กรของโรงเรียนในเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานครภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่ได้ค่าเฉลี่ยอยู่อันดับสูง คือ ด้านการอยู่ร่วมกันของครู ด้านขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ด้านการสนับสนุนทรัพยากร ด้านอิทธิพลของผู้บริหารโรงเรียน ด้านการสื่อสารและด้านความเป็นผู้นำของผู้บริหาร ตามลำดับ 2) การเปรียบเทียบสุขภาพองค์กรจำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการทำงาน แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนด้านขนาดของโรงเรียน พบว่า ด้านความเป็นผู้นำของโรงเรียน อิทธิพลของผู้บริหาร ด้านขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ด้านการอยู่ร่วมกันของครู ด้านการมุ่งเน้นวิชาการ และด้านการสื่อสาร มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในด้านการสนับสนุนทรัพยากรและด้านการมุ่งเน้นวิชาการ แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) แนวทางการพัฒนาสุขภาพองค์กรที่ส่วนใหญ่มีข้อเสนอแนะมากที่สุด คือ ด้านการอยู่ร่วมกันของครู พบว่า ผู้บริหารโรงเรียนควรต้องส่งเสริมให้ ครู และบุคลากร มีความรักใคร่ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
นาถอนงค์ เตียเจริญ. (2559). สุขภาพองค์การของโรงเรียนเทศบาลมิตรสัมพันธ์วิทยา สังกัดเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ประยงค์ มีใจซื่อ. (2565). พฤติกรรมองค์กร. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พงษ์เทพ โรจน์วิรัตน์. (2559). “สุขภาพองค์การขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอธาตุพนม” วารสารบัณฑิตศึกษา 13, 62 (กรกฏาคม- กันยายน 2559): 51-58.
พรรณี ลีกิจวัฒนะ. (2559). วิธีการวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
รัตติยา จันทร์หอม. (2559).“ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูต่อสุขภาพองค์การโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5”
วารสารวิจัย และพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระอลงกรณ์ ในพระบรมราชูภัมภ์, 11, 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2559): 269-278
ล้วน สายยศและอังคณา สายยศ. (2538). เทคนิควิจัยทางการศึกษา.กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
หยาดอัมรินทร์ ศิริขันธ์. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพองค์การของสถานศึกษากับความทุ่มเทในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
อัญชิษฐา ตนภู. (2559). สุขภาพองค์การของโรงเรียนมัธยมศึกษาในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยพะเยา.
Hoy, W.K. and Feldman, J. (1987). Organizationai health: The concept and its measure. Journai of Research and Developmentin Education, 20, 30-37.
Hoy, W.K. and Sabo, D. (1997). Quality Middle Schools: Open and Healthy. California:Corwin Press, Lnc.
Krejcie, R.V. and Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610.
Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic, (Ed.), Attiude Theory and Measurement (pp.90-95). New York: Wiley & Son.
Marcel Brission and et al. (1997). Elements of Organizational Health. Retrieved 19 November 2021, from http://www.psccfp.gc.ca/auditverif/reports/1997/Orghealthe.htm.
Miles, M.B. (1973). Planned change and organizational health: Figure and ground. In M.M. Milstain, & A.B. James (Eds.), Educational administration and the behavioral science: A system perspective. Boston, MA: Allyn and bacon.
Owen, R. G. (1991). Organizational Behavior in Education. Boston: Allyn and Bacon.
Podgurski, T. P. (1990). School effectiveness as it relates to group consensus and organization health of elementary. Dissertation Abstracts International.
Tarter, C J., Hoy, W.K., & Kottkamp, R. (1990). School health and Organizational commilment. Journal of Research and Development in Education, 23, 236- 243.