การพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงและสมรรถนะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยการจัดการเรียนรู้โฟนิกส์ ร่วมกับเทคนิคพหุสัมผัสสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานการวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงด้วยการจัดการเรียนรู้โฟนิกส์ร่วมกับเทคนิคพหุสัมผัส ให้มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไปและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 2) พัฒนาสมรรถนะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยการจัดการเรียนรู้โฟนิกส์ร่วมกับเทคนิคพหุสัมผัส ให้มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไปและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 3) ศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โฟนิกส์ร่วมกับเทคนิคพหุสัมผัส กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านออกเสียง 3) แบบทดสอบวัดสมรรถนะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและ 4) แบบวัดความพึงพอใจ ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการอ่านออกเสียง มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 34.70 คิดเป็นร้อยละ 86.75 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 80.00 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2) สมรรถนะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 48.60 คิดเป็นร้อยละ 81.00 และมีจำนวนที่ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 80.00 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 3) ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โฟนิกส์ร่วมกับเทคนิคพหุสัมผัส มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.82 อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2545). คู่มือสาระมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่ง สินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
. (2560). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
ชัชวาล ทัตศิวัช. (2552). องค์ความรู้เรื่องสมรรถนะ(Competency). เอกสารรายงานการค้นคว้าวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องประกอบการจัดทำนำเสนอเค้าโครงดุษฎี นิพนธ์ชุดที่ 2. ปทุมธานี :มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
นุสรีย์ กันยา. (2559). การพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษด้วยวิธีโฟนิกส์ร่วมกับเทคนิคพหุสัมผัสของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). กรอบสมรรถนะหลักผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1-3). กรุงเทพฯ: บริษัท 21 เซ็นจูรี่ จำกัด.
สุไปรมา ลีลามณี. (2553). ศึกษาความสามารถในการอ่านคำและแรงจูงใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีปัญหาการเรียนรู้ด้านการอ่าน จากการสอนผสมผสานวิธีโฟนิกส์กับวิธีพหุสัมผัส. บัณฑิตวิทยาลัย :มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อินทิรา ศรีประสิทธิ์. (2552). ทฤษฎีใหม่ในการสอนภาษาอังกฤษ สำหรับคนไทยที่รวมการวางพื้นฐานด้วย Phonemic Awareness & Phonics ตามด้วยการสอนอ่านเป็นคํา(Whole Language) เพื่อแก้ปัญหาอาการภาษาอังกฤษบกพร่อง (dyslexia) ของคนไทย. สืบค้น
เมื่อ 18 มิถุนายน 2565, แหล่งที่มา :http://www.englishonline.com2.biz/references./ drintira’sunesco% 20 paper.doc.
Fernald, Peter S. and Jordan, Elizabeth A. (1991). Programmed Instruction versus Standard Text in Introductory Psychology. Teaching of Psychology, 18(4), 205-211. Retrieved 18 June,2023 from http://Search ERIC.org/ericdc/ ED446551.htm
National Institute for Literacy (USA). (2006). The Research Building Blocks on How to Teach Children to Read. National Institute of Child Health and Human Development. Retrieved 16 June, 2022: from www.nih.gov/nichd.
National Reading Panel. (2000). Report of the National Reading Panel: Teaching children to read. Bethesda, MD: National Institute of Child Health and Human Development.