การบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นศูนย์คชศึกษา ตามหลักสัปปายะ 7 จังหวัดสุรินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศูนย์คชศึกษา จังหวัดสุรินทร์ 2) เพื่อศึกษาวิธีการบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศูนย์คชศึกษาตามหลักสัปปายะ 7 จังหวัดสุรินทร์ 3) เพื่อเสนอแนวทางการบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศูนย์คชศึกษา ตามหลักสัปปายะ 7 จังหวัดสุรินทร์ ผลการวิจัยพบว่า สภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นศูนย์คชศึกษา จังหวัดสุรินทร์ 4 ด้าน อยู่ในระดับมาก วิธีการบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศูนย์คชศึกษา ตามหลักสัปปายะ 7 จังหวัดสุรินทร์ มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเก็บข้อมูล และพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ ใช้ข้อมูลสารสนเทศ มาปรับปรุงพัฒนาเพื่อส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ วางแผนจัดสรรงบประมาณ พัฒนาเครื่องมือและวิธีการนิเทศ รวมถึงการกำกับติดตามอย่างสม่ำเสมอ มีการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ นำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลและติดตามผล นิเทศ กำกับ ติดตามโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม และพัฒนาระบบการประเมินผล มีการวางแผนและกำหนดนโยบายเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับ อาวาสสัปปายะ ภัสสสัปายะ ปุคคลสัปปายะ และอิริยาปถสัปปายะ ตามหลักสัปปายะ 7และแนวทางการบริหารแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นศูนย์คชศึกษาตาม หลักสัปปายะ 7 จังหวัดสุรินทร์ พบว่า ควรสร้างเครือข่ายในการทำงานและใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นฐานในการวางแผน เพื่อปรับปรุงพัฒนา ใช้เป็นฐานในการจัดสรรงบประมาณ และระดมทรัพยากรจากส่วนต่างๆโดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ควรนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ควรสำรวจความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ และควรมีการนิเทศติดตามอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับ อาวาสสัปปายะ ภัสสสัปปายะ ปุคคลสัปปายะ และอิริยาปถสัปปายะตามหลักสัปปายะ 7
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กู้เกียรติ แดงสีดา. (2563). แนวทางการบริหารแหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษายุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1”, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.
กษมาพร ทองเอื้อ. (2563). การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ไชยวัฒน์ ปัญญานิติกุล. (2552). การศึกษาสภาวะปัญหาช้างเร่ร่อนในประเทศไทย. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา. (2562), คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาแถลงต่อสภานิติบัญญัติ, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.
ผุสดี รุ่งเรืองผดุง, (2561). การพัฒนาหลักสัปปายะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท.บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สุทัศน์ ประทุมแก้ว, พระมหาธงชัย ฐิตโสภโณ และพระกัญจน์ กนฺตธมฺโม, (2561). ศึกษาภูมิปัญญาด้านการผสมผสานความเชื่อและการประกอบพิธีกรรมของชุมชนสี่เผ่าในจังหวัดศรีสะเกษ. รายงานวิจัย. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เสรี พงศ์พิศ. (2544). ภูมิปัญญาชาวบ้าน. นโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 (ธันวาคม 2544): 31-34.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2561). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ 31. กรุงเทพฯ: มูลนิธิ ป.อ. ปยุตโต เพื่อเชิดชูธรรม.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564).กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.