การบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผัน ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 2) เพื่อศึกษาการบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ผลการวิจัยพบว่า1. การบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผัน ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย พบว่า โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านสามารถเรียงจากด้านที่มีค่าสูงสุดไปหาด้านที่มีค่าต่ำสุดได้ดังนี้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ รองลงมาคือ ด้านวินัยและการรักษาวินัย ด้านการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง ด้านการสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการออกจากราชการ ตามลำดับ 2. การบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย พบว่า โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านสามารถเรียงจากด้านที่มีค่าสูงสุดไปหาด้านที่มีค่าต่ำสุดได้ดังนี้ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านมัตตัญญุตา (รู้จักประมาณ) รองลงมาคือ ด้านปริสัญญุตา (รู้จักชุมชน) ด้านกาลัญญุตา (รู้จักกาล) ด้านธัมมัญญุตา (รู้จักเหตุ) ด้านปุคคลัญญุตา (รู้จักบุคคล) ด้านอัตตัญญุตา (รู้จักตน) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านอัตถัญญุตา (รู้จักผล) ตามลำดับ 3. แนวทางการบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ในการบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันทั้ง 5 ด้านผู้บริหารสามารถนำหลักสัปปุริสธรรม 7 เข้ามาบูรณาการพัฒนาแนวทางการบริหารงานบุคคลยุคโลกพลิกผันได้ ดังนี้ 1) ด้านการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง ต้องยึดหลักสัปปุริสธรรม โดยรู้จักเหตุ และผล รู้จักตนเอง รู้จักประมาณ คำนึงถึงกาลเวลา เข้าใจชุมชน และให้ความสำคัญกับบุคคล เพื่อสร้างความสมดุล และประสิทธิภาพในองค์กร 2) ด้านการสรรหาและบรรจุแต่งตั้งบุคลากรต้องยึดหลักสัปปุริสธรรม คำนึงถึงเหตุผลและผลลัพธ์ เลือกคนที่เหมาะสมตามคุณสมบัติ เปิดกว้างรับฟัง รู้จักประมาณ และปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อสร้างความสามัคคีและความมั่นคงในองค์กร 3) ด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการควรยึดหลักสัปปุริสธรรม ด้วยการวางแผนตามเหตุและผล รู้จักความสามารถและข้อจำกัดของบุคคล ปรับให้เหมาะกับเวลาและทรัพยากร และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม เพื่อสร้างความสามัคคีและคุณภาพในองค์กร 4) ด้านการรักษาวินัยในองค์กรควรยึดหลักสัปปุริสธรรม โดยสร้างความเข้าใจในเหตุผลของกฎระเบียบ ใช้ความยุติธรรม ปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ รู้จักประมาณ และรับฟังปัญหาของบุคลากร เพื่อสร้างวินัยที่เข้มแข็งและความสามัคคีในองค์กร และ 5) ด้านการออกจากราชการควรยึดหลักสัปปุริสธรรม พิจารณาด้วยเหตุผลและความยุติธรรม คำนึงถึงผลกระทบต่อองค์กรและบุคคล ปรับตามสถานการณ์ รับฟังเหตุผล และทำด้วยความเมตตาเพื่อรักษาความสงบสุขในองค์กร
Article Details
เอกสารอ้างอิง
นรรัชต์ ฝันเชียร. การส่งเสริมการศึกษาไทยเพื่อรับมือกับโลกยุค VUCA. https://www.trueplookpanya.com/blog/content/76134/-[27 พฤษภาคม 2567].
นวพล โพธิ์เงิน. (2560). การบริหารการศึกษาตามหลักไตรสิกขากับทฤษฎีเชิงระบบ. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 4(1): 137-146.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2561). การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นหน้าที่ของผู้นําทางการศึกษาในความเป็นผู้นําทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. (2567). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล. https://www.loei2.go.th/wp/ [3 มิถุนายน 2567].
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2552). คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2551). แนวทางการดำเนินการของผู้บริหารในโรงเรียนประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา. (2547). ข้อเสนอแนะทางการบริหารจัดการศึกษาในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์กรรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.