ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1

Main Article Content

กรกมล ช่วยเต้า

บทคัดย่อ

         บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา (2) ศึกษาระดับการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา (3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษา (4) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษา สังกัด สพป.พัทลุง เขต 1 เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 278 คน กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 86 คน ระดับค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม เท่ากับ .954 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการพรรณาวิเคราะห์


        ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง สังกัด สพป.พัทลุง เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2) ระดับการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษา สังกัด สพป.พัทลุง เขต 1 โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากทุกด้าน 3) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษาสังกัด สพป.พัทลุง เขต 1 ทั้งหมด 4 ด้าน คือ การมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ การสร้างแรงบันดาลใจ การกระตุ้นปัญญา และการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ 4) การศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษา สังกัด สพป.พัทลุง เขต 1 พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาแต่ละคนมีวิธีการและแนวทางที่แตกต่างกันในการแก้ปัญหาต่าง ๆ มีภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ มุมมองของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้ว แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษาขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้น สถานการณ์ ณ ขณะนั้น และความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จนทำให้การแก้ปัญหานั้นผ่านไปได้ด้วยดีก่อให้เกิดภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ช่วยเต้า ก. . . (2025). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการบริหารความขัดแย้งในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1. เสฏฐวิทย์ปริทัศน์, 5(2), 824–833. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/stw/article/view/2133
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กนกภรณ์ ชื่นตา. (2556). การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาระยอง เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.

ขมมารี รักษ์ชูชีพ. (2553). ทฤษฎีองค์การ. กรุงเทพมหานคร: ทริปเพิลกรุ๊ป.

จิตราพัชร์ ชัยรัตนหิรัญกุล และ ธานี เกสทอง. (2556). การศึกษาการจัดการความขัดแย้งในสถานศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ. 3(5), 137-152.

ฐาศุกร์ จันประเสริฐ. (2558). การศึกษาสมรรถนะที่ต้องการจำเป็นด้านการจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารในองค์กรภาครัฐ. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 21(1). 1-22.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น . กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

พรชัย เจดามาน. (2560). การจัดการทรัพยากรมนุษย์โดยใช้หัวใจและมันสมอง. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สูตรไพศาลบิวเดอร์.

รัตติยา บุญยิ้ม และคณะ. (2562). การพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตภาคเหนือ. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.

โสพินันท์ กะแหม. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับผลการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2. วารสารนาคบุตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. 12(3), 44-52.

Krejcie and Morgan. (1970). A formative study on the budget process at the Urban University of Madicine and Science (California). Dissertation Abstract International, 607- 610.