ความเชื่อเรื่องพญานาคภูลังกากับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การนำเสนอบทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ประวัติศาสตร์และความเชื่อเรื่องพญานาคในชุมชน 2) วิเคราะห์ความเชื่อเรื่องพญานาคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน 3) สำรวจการใช้ความเชื่อเรื่องพญานาคในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผลการศึกษาพบว่า 1) ตำนานความเชื่อเรื่องพญานาคภูลังกาเกิดจากเจ้าหญิงนาครินทรานีซึ่งเป็นพญานาคแปลงร่างเป็นมนุษย์มาอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟ้ารุ่งโอรสของพระเจ้าอือลือ ต่อมาเจ้าหญิงนาครินทรานีได้ล้มป่วยทำให้ร่างกายคืนสภาพกลายเป็นพญานาค ชาวเมืองและพระเจ้าอือลือไม่พอใจจึงได้ขับไล่กลับเมืองบาดาล พญานาคราชกริ้วมากจึงทำลายเมืองรัตพานคร และจับพระเจ้าอือลือแล้วสาปให้เป็นพญานาคเฝ้าภูลังกา 2) ความเชื่อเรื่องพญานาคประกอบกับภูมิประเทศของภูลังกาทำให้นักท่องเที่ยว และผู้คนที่ศรัทธาพญานาคเดินทางไปเยี่ยมชม กราบไหว้ขอพร นอกจากนั้นพื้นที่นี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชไม้นานาพรรณ ทำให้นักธรรมชาตินิยมมีความชื่นชอบเป็นอย่างมาก ประกอบกับมีการนำตำนานของภูลังกาไปสร้างเป็นละครจึงทำให้เป็นที่รู้จัก ผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงมีที่พัก ร้านอาหาร และสถานบริการเกิดขึ้น สร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ให้คนในชุมชน ทำให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการให้บริการ เพื่อรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนผ่านการท่องเที่ยว 3) การจะใช้ความเชื่อเรื่องพญานาคในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั้น ต้องใช้พญานาคเป็นจุดขายโดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ นำเสนอประวัติความเชื่อ กิจกรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง พัฒนาทักษะของบุคลากร สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวก รักษาความสะอาด จัดระบบการเข้าชมให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอสินค้าของที่ระลึกที่ส่งเสริมศิลปหัตถกรรมท้องถิ่น สร้างสำนึกรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก่นักท่องเที่ยวและชุมชน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช. (2564). อุทยานแห่งชาติภูลังกา, ที่ตั้งและการเดินทาง. เรียกใช้เมื่อ 10 กันยายน 2567 จาก https://en.npu.ac.th/wisdom/?p=454.
ณฐอร นพเคราะห์ และคณะ. (2564). ความเชื่อเรื่องพญานาคในบริบทสังคมไทย. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม. 7(6), 98-108.
MGR online. (2565, 13 กุมภาพันธ์). ทึ่ง! ถ้ำนาคากับตำนานรักอัศจรรย์ สู่แหล่งท่องเที่ยวสายมูสุดปัง. เรียกใช้เมื่อ 10 กันยายน 2567 จาก https://mgronline.com/travel/detail/965000001439.
MGR online. (2566). เที่ยวถ้ำนาคา-นาคีโฉมใหม่กับถนนเขาช่องกรีนโรดแห่ง อช.ภูลังกา. เรียกใช้เมื่อ 10 กันยายน 2567 จาก https://mgronline.com/travel/detail/9660000014943.
กรมศิลปากร. (2483). อุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม). กรุงเทพมหานคร: ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ อ.ต. หลวงประชุมบรรณสาร (พิณ เดชะคุปต์). กรุงเทพมหานคร: กรมศิลปากร.
จิตรกร เอมพันธ์. (2545). พญานาคเจ้าแห่งแม่น้าโขง: พิธีกรรมกับระบบความเชื่อพื้นบ้านแห่งวัฒนธรรมอีสาน.วิทยานิพนธ์มานุษยวิทยามหาบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เบญจภัคค์ เจริญมหาวิทย์. (2564). “บั้งไฟพญานาค” การสื่อความหมายในสังคมไทย. วารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. 4)1, 16-26.
พจมาน มูลทรัพย์. (2564). คติชนสร้างสรรค์จากความเชื่อเรื่องพญานาคในภาคอีสานตอนบนของประเทศไทย. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต. คณะอักษรศาสตร์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นุชนารถ กฤษณรมย์ และปรีดา นัคเร. (2564). การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่สอดคล้องกับพฤติกรรม และความต้องการของนักท่องเที่ยวกรณี อําเภอนบพิตํา จังหวัด นครศรีธรรมราช. วารสารนาคพุทธปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. 13(1), 128-140.
นิตยา งามยิ่งยง และละเอียด ศิลาน้อย. 2560. แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบริเวณริมฝั่งคลอง ดำเนินสะดวกในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดราชบุรี. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี. 11(1), 149-166.
ธารารัตน์ มหาพันธ์ และ นิรมล สัมมัตตะ. (2567). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวถ้ำนาคี อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม. รายงานการวิจัย. คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม: มหาวิทยาลัยนครพนม.
วัฒนพันธุ์ ครุฑะเสน. (2557). ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค :การสร้างนวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จังหวัดหนองคาย นครหลวงเวียงจันทน์และแขวงบอลิคำไซ. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, 7(2), 1611-1626.
วุฒิชัย สว่างแสง. (2565) พญานาค: ความเชื่อสู่การกลายเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมอีสาน. วารสารปรัชญาและศาสนา. 7(2), 82.
วรรณประภา และสุนทร วรหาร. (2567). ความเชื่อ เรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวชายแดนไทย-ลาว *ในจังหวัดอุบลราชธานี:การพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว. รายงานการวิจัย. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
วรเดช มีแสงรุทรกุล. (2562). นาคและบาดาลโลก: พัฒนาการทางความเชื่อในโลกทัศน์ของชาวพุทธ. วารสารวิชา การ มจร บุรีรัมย์. 4(2). 104-114.
มัชฌิมา วีรศิลป์. (2564). ความเชื่อพญานาคกับการเสี่ยงทายในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ คำชะโนด. วารสารบัณฑิตแสงโคมคำ. 6(1). 165-180.
สุพิชฌาย์ จินดาวัฒนภูมิ. (2542). ความเชื่อเรื่องนาคของชุมชนอีสานลุ่มแม่น้ำโขง (ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน). วิทยานิพนธ์บริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ไทย. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ.
สุชาติ บุษย์ชญานนท์. (2564). พลวัตกระแสพญานาคนิยมในยุคโลกาภิวัฒน์. วารสารวนัมฎองแหรกพุทธศาสตรปริทรรศน์. 4(2), 43-61.
สุดารัตน์ อาฒยะพันธุ์ และ ปัทมาวดี ชาญสุวรรณ. (2562). การประดิษฐ์สร้างนาฏยประดิษฐ์จากคติความเชื่อเรื่องนาค ศรัทธานาคะ. วารสารช่อพะยอม. 30(2), 185-194.
สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580. เรียกใช้เมื่อ 23 กันยายน 2567 จาก https://dl.parliament.go.th/backoffice/viewer2300/web/viewer.php.
สำนักงานจังหวัดนครพนม. (2565). ถ้ำนาคี อุทยานแห่งชาติภูลังกาบ้านแพง. เรียกใช้เมื่อ 23 กันยายน 2567 จาก http://www2.nakhonphanom.go.th/charm/detail/78.
Sawangseang, V. (2023). Naga: Belief towards become as a cultural product of Isan. Journal of Philosophy and Religion, Khon Kaen University. 7(2), 80-98.
Singsuwan, A., & Puaksom, D. (2020). From jao poo to phaya sri suddho bodhisattva: a modification of naga cosmology belief of kham chanot people. Humanities and Social Sciences Journal Ubon Ratchathani University. 11(1), 146-175.
Jansuri, A. (2021). Mutelu: Beliefs and tourism. Journal of Arts & Cultural Perception. 20(1), 220-240.
Noppakor, N., Kheokao, J., & Poomduang, T. (2023). The belief of Naga in Thai society. Journal of Social Science and Cultural. 7(6), 98-108.
National Economic and Social Development Board. (2022). The 13th National Economic and Social Development Plan Years 2023-2027. Bangkok: Office of the Economic Development and Economic Development Board, National Society Office of the Prime Minister.