พฤติกรรมการตัดสินใจเลือกใช้บริการสปาของผู้ใช้บริการในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

Main Article Content

สุวรรณา กองกูต

บทคัดย่อ

    การศึกษาวิจัยเรื่อง ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่ส่งอิทธิพลต่อการตัดสินใจการเลือกใช้บริการสปาของผู้ใช้บริการในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกใช้บริการสปาของผู้ใช้บริการในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดในการเลือกใช้บริการสปา เพื่อศึกษาระดับการตัดสินใจเลือกใช้บริการสปาและเพื่อศึกษาปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจการเลือกใช้บริการสปาของผู้ใช้บริการในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ใช้บริการสปาในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 400 คน ผู้วิจัยกำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตรคำนวณแบบไม่ทราบจำนวนประชากรของคอชเรน ที่มีระดับความเชื่อมั่น 95% ยอมให้ความคาดเคลื่อนไม่เกิน 5% และใช้วิธีการสุ่มแบบบังเอิญ ทำการรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษา และใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และทำการทดสอบสมมติฐานโดยการด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regresstion Analysis) ด้วยวิธีการนำตัวแปรเข้าทั้งหมด (Enter Selection) ผลการวิจัย สรุปได้ ดังนี้


      1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 70.50 มีอายุ 36-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 46.00 มีสถานภาพ สมรส คิดเป็นร้อยละ 48.00 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 61.50 มีอาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง คิดเป็นร้อยละ 41.25 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 25,001 – 50,000 บาทคิดเป็นร้อยละ 45.75 2. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ใช้บริการสปาประเภทนวดตัว/นวดสมุนไพร คิดเป็นร้อยละ 28.25 ใช้บริการโดยเฉลี่ยต่อเดือน 1-2 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 83.30 วันที่ไปใช้บริการสปาบ่อยที่สุดคือวันเสาร์-อาทิตย์ คิดเป็นร้อยละ 58.25 ช่วงเวลาที่ไปใช้บริการสปาบ่อยที่สุด 16.01-20.00 น. คิดเป็นร้อยละ 41.75 ค่าใช้จ่ายต่อการเลือกใช้บริการสปาในแต่ละครั้ง น้อยกว่า 1,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 56.00 วัตถุประสงค์ในการใช้บริการสปาเพื่อพักผ่อนคลายเครียด คิดเป็นร้อยละ 46.80 3. ระดับปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดในการเลือกใช้บริการสปา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย พบว่า ด้านมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านบุคลากร รองลงมา คือ ด้านกระบวนการให้บริการ มีค่าเฉลี่ย ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ มีค่าเฉลี่ย ด้านผลิตภัณฑ์ มีค่าเฉลี่ย ด้านราคา มีค่าเฉลี่ย ด้านการจัดจำหน่าย มีค่าเฉลี่ย และ ด้านการส่งเสริมการตลาด ตามลำดับ 4. ระดับการตัดสินใจเลือกใช้บริการสปา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ เลือกใช้บริการสปา โดยพิจารณาจากคุณภาพการให้บริการของสถานบริการ และความเชี่ยวชาญของพนักงานผู้ให้บริการ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ก่อนการตัดสินใจเลือกใช้บริการร้านสปา มีการศึกษาข้อมูลจาก เว็บไซต์ Facebook และสื่อออนไลน์ต่าง ๆ 5. ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการจัดจำหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านบุคลากร ด้านกระบวนการให้บริการ และด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการสปาของผู้ใช้บริการในเมืองพัทยา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ปัจจัยด้านส่วนผสมทางการตลาดทั้ง 7 ตัวแปรร่วมอธิบายความผันแปรของการ
ตัดสินใจเลือกใช้บริการสปา ได้ร้อยละ 75.1

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย