การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ

Main Article Content

ณัฐศรัณย์ อารยะพงศ์

บทคัดย่อ

      การวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นการวิจัยเชิงผสมผสาน โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการแจกแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 338 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษแบ่งออกเป็น 3 ตอน โดยค่าสัมประสิทธิ์ แอลฟ่า มีค่าเท่ากับ 0. 87 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการแจกแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการเจาะจง ได้แก่ ผู้นำชุมชนจากทั้ง 5 หมู่บ้าน จำนวน 5 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์แบบมี โครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา


    ผลการวิจัย พบว่า 1. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.35 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงตามลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการร่วมคิดและตัดสินใจ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.40 รองลงมาคือ ด้านการร่วมดำเนินการ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.46 ด้านการร่วมรับผลประโยชน์ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.39 และด้านการร่วมติดตามและประเมินผล อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.26 ตามลำดับ 2. ผลการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า 2.1 การมีส่วนร่วมด้านร่วมคิดและตัดสินใจ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น จึงไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นเท่าที่ควร ส่วนมากมีแต่ผู้นำเข้าร่วมจัดทำและเสนอโครงการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น ผู้เข้าร่วมประชุมมีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลายทำให้เกิดความขัดแย้ง งบประมาณมีค่อนข้างจำกัด ทำให้การดำเนินงานค่อนข้างล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย องค์การบริหารส่วนตำบลและผู้นำชุมชนควรส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นมากกว่านี้ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลและผู้นำชุมชนควรชี้แจงให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น และควรวิเคราะห์ถึงปัญหา และความต้องการของประชาชนก่อนตัดสินใจแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ 2.2 การมีส่วนร่วมด้านร่วมดำเนินการ ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นน้อย การปฏิบัติตามโครงการหรือกิจกรรมองค์การบริหารส่วนตำบลไม่ดำเนินการตามแผนพัฒนาท้องถิ่นที่ตั้งไว้ องค์การบริหารส่วนตำบลควรดำเนินการตามแผนพัฒนาท้องถิ่นโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนคอนกรีตและไฟฟ้าการเกษตร และจัดอบรมโครงการต้านยาเสพติดให้ความรู้แก่เยาวชนและประชาชนในชุมชน และควรจัดหาแหล่งทุนต่างๆ เพื่อมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น 2.3 การมีส่วนร่วมด้านร่วมรับผลประโยชน์ ประชาชนได้รับผลประโยชน์ไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียมกัน เนื่องจากการจัดสรรผลประโยชน์ใช้ความสัมพันธ์แบบเครือญาติ แบบพวกพ้องของตนเอง คณะกรรมการจัดทำแผนขาดขวัญและกำลังใจเนื่องจากไม่มีค่าตอบแทนในการทำงาน ควรจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่นให้กระจายให้ทั่วทุกชุมชนด้วยความเป็นธรรมและเสมอภาค ควรจัดสวัสดิการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำงานให้คณะกรรมการจัดทำแผนหรือตัวแทนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และควรจัดให้มีโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพแก่ประชาชนทุกๆ ด้าน 2.4 การมีส่วนร่วมด้านร่วมติดตามและประเมินผล ประชาชนไม่มีความเข้าใจในการติดตามและ ประเมินผลการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น ควรมีตัวแทนของประชาชนจากทุกหมู่บ้านเข้าร่วมติดตามและประเมินผล การประเมินผลให้มีหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งรายงานผลให้ประชาชนได้ทราบกันอย่างทั่วถึงและควรมีค่าตอบแทนให้กรรมการประเมินผลเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานยิ่งขึ้น

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย