การศึกษาปัญหา ความต้องการ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบริหาร งานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
คำสำคัญ:
การบริหาร, งานเอกสาร, สำนักงานอธิการบดีบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาปัญหาการบริหารงานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 2. ศึกษาความต้องการในการแก้ไขปัญหาการบริหารงานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ และ 3. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะการบริหารงานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ศึกษาและเก็บข้อมูลการวิจัยในปี พ.ศ. 2567 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ จำนวน 123 คน คัดเลือกโดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าสถิติ t – test และ F -test แบบ One-way ANOVA
ผลการวิจัยพบว่า
- ปัญหาในการบริหารงานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (M = 4.13, SD = .26) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการจัดเก็บเอกสาร (M = 4.24, SD = .37) รองลงมาคือ ด้านการยืมและการสืบค้นเอกสาร (M = 4.17, SD = .39) และ ด้านการผลิตเอกสาร (M = 4.13, SD = .43) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการทำลายเอกสาร (M = 4.02, SD = .43)
- ความต้องการในการบริหารงานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (M = 4.19, SD = .17) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการผลิตเอกสาร (M = 4.31, SD = .31) รองลงมาคือ ด้านการจัดเก็บเอกสาร (M = 4.27, SD = .28) และด้านการยืมและการสืบค้นเอกสาร (M = 4.25, SD = .37) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการทำลายเอกสาร (M = 3.93, SD = .39)
- แนวทางในการแก้ไขปัญหาการบริหารงานเอกสาร กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ควรมีการกำหนดระเบียบขั้นตอนการบริหารงานเอกสารอย่างเป็นระบบและชัดเจนเป็นมาตรฐานเดียวกันในการปฏิบัติ ควรจัดฝึกอบรมให้ความรู้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่เกี่ยวข้องจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานต่าง ๆ เพื่อเพิ่มทักษะในการบริหารงานเอกสารให้มากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
เกวลี เฉิดดิลก. (2563). การพัฒนาระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานสารบรรณ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วารสารสถาปัตยกรรม การออกแบบและการก่อสร้าง, 2(3), 53–66.
ชุติกาญจน์ เลิศวลัยรัตน์, อรวรรณ บุญยฤทธิ์, สมสรวง พฤติกุล. (2557). ระบบการจัดการเอกสารราชการของสำนักราชเลขาธิการ. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, 7(3), 259 – 271.
ผาณิต วงศ์ชารี และมาลี กาบมาลา, (2557). การจัดการเอกสารของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น. วารสารวิจัย มข. (ฉบับบัณฑิตศึกษา) สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2(2), 24–34.
ละอองดาว ภูสำรอง. (2561). ระบบการจัดเก็บเอกสารภายในของบุคลากรสายสนับสนุน คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สิทธิชัยวร โชติกำจร, และ พัชราภรณ์ วรโชติกำจร. (2561). การพัฒนาระบบจัดเก็บและค้นคืนเอกสารงานสารบรรณ. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 6(1), 137-145.
สุชาติ ฤกษ์โอรส. (2558). การศึกษาปัญหา ความต้องการ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบริหารงานเอกสารของหน่วยงานภายในสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. https://rc.nida.ac.th/port_research.php
อนุรักษ์ จันทร์รุ่งทวีกุล, สิริรัตน์ สุวณิชย์เจริญ, สุดาว เลิศวิสุทธิไพบูลย์, อภิรดี ศรีโอภาส, และกุณฑลีย์ บังคะดานรา. (2567). การพัฒนาระบบจัดเก็บและสืบค้นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมของโรงงานผลิตชิ้นส่วนฟองน้ำสังเคราะห์และยางสังเคราะห์แห่งหนึ่ง. วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต, 1(2), 5-15.
อาทิตยา พลภักดี และสุวรัฐ แลสันกลาง, (2560). การบริหารและการจัดการงานสารบรรณของเทศบาลตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 10(3), 171-182.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมศาสตร์ทัศนา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้รายใดก็ตามที่จะอ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือเชื่อมโยงไปยังข้อความทั้งหมดของบทความ รวบรวมข้อมูลสำหรับการจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือมีเจตนาเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจใดๆ เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า (Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License