พัฒนาการของการนำแนวความคิดค่าเสียหายในเชิงลงโทษ มาปรับใช้ในกฎหมายไทย

บทคัดย่อ

แม้ว่าแนวความคิดค่าเสียหายในเชิงลงโทษ (Punitive Damages) จะมีรากฐานมาจากระบบกฎหมายจารีตประเพณี (Common Law) แต่ปัจจุบันแนวความคิดดังกล่าวได้มีการแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มประเทศที่ใช้ระบบประมวลกฎหมาย (Civil Law) มากขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะแนวความคิดของการกำหนดค่าเสียหายทางแพ่งในระบบประมวลกฎหมายนั้นได้มีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะผสมผสานมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ใช้ระบบประมวลกฎหมายและได้มีการนำเอาแนวความคิดของค่าเสียหายในเชิงลงโทษมาปรับใช้ในกฎหมายไทยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย อีกทั้งใช้เป็นมาตรการทางกฎหมายหนึ่งในการสร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคม โดยการนำแนวความคิดดังกล่าวมาปรับใช้ในกฎหมายไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ.2545  และพบว่าการนำมาปรับใช้มิได้หยุดอยู่แค่เพียงพระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ.2545 เท่านั้น ยังคงมีการพัฒนาและมีการนำมาปรับใช้กับกฎหมายลักษณะเฉพาะหรือที่เรียกว่า “กฎหมายเทคนิค” อยู่อีกหลาย ๆ ฉบับในรอบกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ผู้เขียนหวังว่าสักวันหนึ่งแนวความคิดค่าเสียหายในเชิงลงโทษนี้น่าจะสามารถนำมาปรับใช้กับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยลักษณะละเมิดซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทได้ด้วย อันจะเป็นการขยายกรอบของการเยียวยาและสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียหายได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการพัฒนากฎหมายละเมิดไปสู่อีกระดับหนึ่งที่สังคมสมควรได้รับการคุ้มครองดูแลจากกฎหมายละเมิด