การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมกับการครองเรือน ในเขตเทศบาลตำบลขามใหญ่

บทคัดย่อ

บทความเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องการครองเรือน 2) เพื่อศึกษาสภาพการครองเรือนของประชาชนเขตเทศบาลตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 3) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมการครองเรือนของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า การครองเรือนในเขตเทศบาลตำบลขามใหญ่ ตำบลขาใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จำเป็นต้องนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่ หลักธรรมเรื่องสมชีวิธรรม ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ประการ คือ 1) สมสัทธา มีศรัทธาเสมอกัน 2) สมสีลา มีศีลเสมอกัน 3) สมจาคา มีการบริจาคมีการเสียสละเสมอกัน 4) สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน สภาพและปัญหาการครองเรือนในในเขตเทศบาลตำบลขามใหญ่ ตำบลขาใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ในปัจจุบันเผชิญกับสภาวการณ์ เปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากปัจจัยภายในครอบครัวและปัจจัยแวดล้อมในชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสภาพเศรษฐกิจซึ่งเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลกาภิวัตน์ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื่อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ผลกระทบต่อแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เป็นปกติสุขของครอบครัว ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังจะเห็นได้ว่าครอบครัวไทยมีลักษณะหลากหลายยิ่งขึ้น และสมาชิกในครอบครัวมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างไป ประเภทของครอบครัวไทย จะประกอบได้ด้วย 1) ครอบครัวเนื้อแท้หรือครอบครัวพื้นฐาน 2) ครอบครัวขยายหรือครอบครัวร่วม 3) ครอบครัวซ้อน 4) ครอบครัวสาระ จากการมีสมาชิกภายในครอบครัวจำนวนมาก ซึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ ญาติพี่น้องของคู่สมรส อาจจะทำให้คู่สมรสต้องเผชิญกับปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ เกี่ยวกับบุคคลภายในครอบครัวได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่อความความมั่นคงและความเป็นปกติสุขของครอบครัวได้