ชุมชนพุทธเกษตรกับการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ในพื้นที่อีสานใต้

Main Article Content

พระมหาคำพันธ์ ปภากโร
สมนึก จันทร์โสดา
ประยงค์ ศรไชย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ 1) ศึกษาการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์ของชุมชนพุทธเกษตรในพื้นที่อีสานใต้ 2) สร้างรูปแบบการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืนของชุมชนพุทธเกษตรในพื้นที่อีสานใต้ 3) สร้างเครือข่ายการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืนของชุมชนพุทธเกษตรในพื้นที่อีสานใต้ผลการวิจัย พบว่า 1) ศึกษาการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์ (1) ปัจจัยสำคัญของการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์ประกอบด้วย สิทธิในที่ดิน กฎหมายรองรับสิทธิการตัดไม้และทำไม้ การคัดเลือกพันธุ์ไม้ การเตรียมดิน ระบบน้ำและการปลูก การคัดเลือกพืชเศรษฐกิจหมุนเวียนผสมผสาน โดยใช้หลักพระพุทธศาสนาได้แก่ หลักการพึ่งพากันของสรรพสิ่งและหลักความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและชุมชน (2) ปัจจัยสำคัญในการจัดการป่าชุมชน ประกอบด้วย เอกสารสิทธิที่ดินและหนังสือสำคัญของทางราชการ กฎระเบียบของชุมชนในการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากป่า การแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก ตลอดทั้งหลักพระพุทธศาสนาว่าด้วยความพร้อมเพรียงและความเมตตาในพระพุทธศาสนา  2) รูปแบบการปลูกป่าเชิงพาณิชย์ แยกออกได้ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย การปลูกไม้มีค่าแซมด้วยพืชเศรษฐกิจยืนต้นที่เก็บผลผลิตได้ทุกปี การปลูกไม้มีค่าพร้อมกับเพาะเชื้อเห็ดและปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ในแปลงเดียวกัน และ การปลูกไม้มีค่าแซมด้วยพืชเศรษฐกิจหมุนเวียนตามฤดูกาล ด้วยเหตุที่พื้นที่ปลูกป่าเชิงพาณิชย์ของเกษตรกรมีอยู่จำกัด เกษตรกรจึงปลูกป่าในเชิงการเกษตรเพื่อยังชีพมากกว่าการเกษตรเชิงพาณิชย์ สำหรับการดูแลป่าชุมชน มีคณะกรรมการป่าชุมชนดูแลป่าตามเอกสารสิทธิและหนังสือสำคัญ ได้แก่ พ.ร.บ. ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง และ น.ส.3 การรักษาและใช้ประโยชน์จากป่าได้ใช้หลักกฎหมาย หลักพระพุทธศาสนาว่าด้วยความพร้อมเพรียงและความเมตตาตลอดทั้งหลักความเชื่อทางจิตวิญญาณและความเข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่งในป่า  3) เครือข่ายการปลูกป่าเชิงพาณิชย์ (1) เครือข่ายที่มีอยู่แล้วก่อนแผนงานวิจัย ได้แก่ เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ และเครือข่ายคณะกรรมการป่าชุมชนแบบไม่เป็นทางการ (2) เครือข่ายที่เกิดจากแผนงานวิจัย โดยชุมชนพุทธเกษตรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษและยโสธร ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี ลงนามบันทึกความร่วมมือสร้างเครือข่ายการปลูกป่าเชิงพาณิชย์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือการจัดการปลูกป่าอย่างยั่งยืน (3) มาตรการหนุนเสริมเครือข่ายเกษตรกรและคณะกรรมการป่าชุมชนในด้านกฎหมายและการตลาดให้สอดคล้องกับประชาคมโลกในการส่งเสริมผลิตผลที่มิได้เกิดจากการทำลายป่าหรือความหลากหลายทางชีวภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ปภากโร พ., จันทร์โสดา ส. ., & ศรไชย ป. . (2023). ชุมชนพุทธเกษตรกับการจัดการปลูกป่าเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ในพื้นที่อีสานใต้. วารสารพุทธศาสตร์ มจร.อุบลราชธานี, 5(3), 291–300. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JOBU2025/article/view/4382
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ดอกรัก มารอด (2555). นิเวศวิทยาป่าไม้ประยุกต์. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติป่าไม้ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2562 การรับรองไม้. เล่ม 136 ตอนที่ 50 ก วันที่ 16 เมษายน 2562.

สหรัฐ ศิริวรรณ. คำบรรยาย “การปลูกป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฉบับที่ 8 พ.ศ.2562”. ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี. วันที่ 24 พฤษภาคม 2565.

สำนักจัดการป่าชุมชน. (2557.ป่าชุมชน: รูปแบบการพัฒนาและบริหารจัดการป่าอย่างยั่งยืน. กรมป่าไม้.

อาทิตยา พองพรหม. สรุปสถานการณ์การถือครองที่ดินและสาเหตุการสูญเสียที่ดินของเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย. https://alro.go.th/tech_trans. (สืบค้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2563).Chavalvut Chainuvati. Crop Diversification in Thailand. https://www.fao.org. (Retrieved on November 2021)

Darlington. Susan M.. Buddhist Integration of Forest and Farm in Northern Thailand. 2019

Gilmour, Don. Commercialization of CBF Products, Forty years of community-based forestry: A review of its extent and effectiveness. Food and Agriculture Organization of the United Nations. Rome. 2016. http://www.fao.org/pdf. (Retrieved on November 2021)

Kate M. What is Commercial Agriculture. https://socratic.org/questions/what-is-commercial-agriculture. (Retrieved on November 2021)

Michel Merlet. Community forests. Document for Discussion between FERN and its Partners. June 2015. pp3 and 6.