การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้าของกลุ่มเปาะบางจังหวัดนครราชสีมา

Main Article Content

มนัสพล ยังทะเล
เบญจมาศ สุวรรณวงศ์
เบญญาภา จิตมั่นคงภักดี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปการส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธของกลุ่มเปราะบางในจังหวัดนครราชสีมา 2) เพื่อสร้างโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้าของกลุ่มเปราะบางจังหวัดนครราชสีมา  3) เพื่อศึกษาผลการใช้โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้าของกลุ่มเปราะบางจังหวัดนครราชสีมา  การวิจัยเชิงคุณภาพโดยศึกษาเอกสาร การเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบการสัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่มเฉพาะ จำนวน 50 รูป/คน ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพทั่วไปการส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธของกลุ่มเปราะบางในจังหวัดนครราชสีมา โดยทั่วไปพบว่าผู้สูงอายุเมื่อได้รับการทดสอบภาวะซึมเศร้าซึ่งเป็นแบบวัดระดับภาวะซึมเศร้าของโรงพยาบาลรามาธิบดี ทำให้ทราบถึงระดับของผู้สูงอายุมีค่าเฉี่ยในระดับปานกลางและค่อนข้างรุนแรง ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะภาวะที่เป็นอยู่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ และยังไม่มีวิธีเข้าถึงแหล่งการดูแลหรือการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคำปรึกษาในการดูแลตัวเองได้ 2. การสร้างโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้า ทำให้ได้โปรแกรมที่เรียกว่า ซ.ส.ป. แปลความหมายได้ว่า ซ. หมายถึง ซ่อมใจรักษากาย ส. หมายถึง ส่งเสริมวิถีพุทธรักษาใจ และ ป. หมายถึง ป้องกัน 3. ผลการใช้โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้าของกลุ่มเปราะบาง ภาวะซึมเศร้าที่เกิดกับผู้สูงอายุในกลุ่มเป้าหมายที่มีอาการระดับปานกลาง ระดับค่อนข้างรุนแรง และระดับรุนแรง โดยใช้โปรแกรมที่เรียกว่า ซ.ส.ป. พบว่าผู้ที่มีอาการภาวะซึมเศร้าระดับปานกลางก็ดีขึ้น ส่วนระดับค่อนข้างรุนแรงก็พว่ายังต้องใช้เวลามากกว่าคนที่มีระดับปานกลาง โปรแกรมส่งเสริมวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้าได้ผลในระดับดี ซึ่งจะต้องพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวให้สอดคล้องกับภาวะที่เป็นอยู่ให้มากขึ้นต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ยังทะเล ม. . ., สุวรรณวงศ์ เ. ., & จิตมั่นคงภักดี เ. (2024). การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพวิถีพุทธป้องกันโรคซึมเศร้าของกลุ่มเปาะบางจังหวัดนครราชสีมา. วารสารพุทธศาสตร์ มจร.อุบลราชธานี, 6(3), 1067–1074. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JOBU2025/article/view/3378
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2558). เอกสารประกอบการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติครั้งที่ 14, และการประชุมวิชาการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ : กรมสุขภาพจิต.

กระทรวงแรงงาน,รายงานการศึกษาวิเคราะห์.(2560). ฐานข้อมูลแรงงานและประมาณการ ความต้องการแรงงานของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาค ตะวันออก (EEC). กรุงเทพฯ: เท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น.

มาโนช หล่อตระกูล และปราโมทย์ สุคนิชย์.(2555). จิตเวชศาสตร์รามาธิบดี. กรุงเทพฯ: ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาล รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.

วันเพ็ญ หวังวิวัฒน์เจริญและสาระ มุขดี.(2539). “ความเครียดของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลเกื้อ การุณย์.” วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 41 (2) เมษายน – มิถุนายน.

Stuart, G. W. (2009). Principles and practice of psychiatric nursing. 9th ed. St. Louis: Elsevier Mosby.

World Health.(2017).Organization Depression and other common mental disorders: Global health estimates. Geneva: World Health Organization.

Beck D.L.; Srivastava, R.,(1999). “,” Perceived Level and Sources of Stress in Baccalaureate Nursing Students Journal of Nursing Education, 30(3), March.