การประยุกต์หลักอปริหานิยธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมือง ของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
การประยุกต์, หลักอปริหานิยธรรม, การมีส่วนร่วมทางการเมืองบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 2. เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3. นำเสนอการประยุกต์หลักอปริหานิยธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ กำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 265 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที ค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง รองลงมา ด้านการดำเนินการเลือกตั้ง
ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การร่วมรณรงค์เลือกตั้ง 2) การเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า กำลังพลที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา ชั้นยศ และรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย 3) การประยุกต์หลักอปริหานิยธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ 1) หมั่นประชุมกันเป็นประจำ ประชุมเป็นประจำ 2) พร้อมเพรียงกันประชุม ประชุมตามกำหนด 3) ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ บัญญัติกฎข้อบังคับ 4) เคารพนับถือผู้ใหญ่ ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา 5) ไม่ลุแก่อำนาจ ส่งเสริมให้กำลังพลเสียสละ 6) เคารพสักการะ
ปูชนียสถาน ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และ 7) ตั้งใจสนับสนุนคนดี สร้างค่านิยมความเสียสละ
เอกสารอ้างอิง
กองกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา. สถานภาพกำลังพลประจำปี 2567, นครราชสีมา : กองกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา, 2567.
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. 1 ทศวรรษทหารกับการเมืองไทย. กรุงเทพฯ : โครงการตลาดชาวบ้าน มหาวิทยาลัยชาวบ้าน, 2555.
ณรงค์ สินสวัสดิ์. การเมืองไทย: การวิเคราะห์เชิงจิตวิทยา. กรุงเทพฯ : วิชรินทร์การพิมพ์ 2566.
ถิรวุฒิ ดำริสระน้อย. “การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของตำรวจในการเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2567.
นิยม เวชกามา. “รูปแบบการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนชาวสกลนครตามแนวพุทธจิตวิทยา”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2561.
พระสมเกียรติ กิตติโสภโณ (จวบกลาง). “การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา”, สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2566.
รัฐกูล เสนารา. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนต่อมาตรการควบคุมโรค โควิด-19 ในอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2564.
วีระ หวังสัจจะโชค. การมีส่วนร่วมทางการเมืองในประชาธิปไตยใหม่ : การพัฒนาสถาบันการเมืองว่าด้วยการมีส่วนร่วมทางการเมืองในรัฐธรรมนูญ. กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2562.
สุจิต บุญปงการ. การพัฒนาทางการเมืองของไทย : ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทหาร สถาบันทางการเมืองและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2537.
สุรชาติ บำรุงสุข. ทหารกับการแทรกแซงการเมือง : บทสำรวจปัจจัยและเงื่อนไขของสถาบันกองทัพ. กรุงเทพฯ : มติชนสุดสัปดาห์, 2556.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. (3rd ed.). New York : Harper & Row.