การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา เรื่องหลักธรรมโอวาท 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านดอนตะลุมพุก (เจริญจิตต์วิทยา) จังหวัดนนทบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับคะแนนสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา เรื่องหลักธรรมโอวาท 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านดอนตะลุมพุก (เจริญจิตต์วิทยา) จังหวัดนนทบุรี โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัยตามแผนการจัดการเรียนรู้ทั้งหมด 5 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องหลักธรรมโอวาท 3 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียนจำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้ t-test สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่สัมพันธ์กัน (Paired Sample t-test) ในการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการเรียน
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีคะแนนสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนในทุกคน โดยคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 88.00 แสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ส่งผลต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทางบวกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ การเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียนด้วยการใช้กิจกรรมเป็นฐานยังพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐานมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนในเรื่องหลักธรรมโอวาท 3 ได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อันเป็นการพัฒนาทั้งความรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในวิชาพระพุทธศาสนาอย่างเหมาะสมกับระดับชั้นประถมศึกษา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
เอกสารอ้างอิง
กฎกระทรวง การสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรณนา พ.ศ. 2559. (2560, 27 มกราคม). ราชกิจจานุเษกษา. เล่มที่ 134 ตอนที่ 12 ก, หน้า 41-51.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต). (2546ก). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต). (2546ข). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาสิทธิโชค สิริวณฺโณ. (2565). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกวิชาพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ศิวนาถ ฤชุพันธุ์. นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์. 9 กุมภาพันธ์ 2566. สัมภาษณ์.
อัจฉรา ยะคำ. (2556). การสร้างหนังสือการ์ตูนสาระพุทธศาสนา เรื่องพุทธโอวาท 3 เพื่อสร้างเสริมคุณธรรมพื้นฐานของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดห้วยทราย อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เสริมพงศ์ วงศ์กมลาไสย. (2548). การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง หลวงตาพลวง โดยใช้ กิจกรรมกลุ่มแบบจิกซอว์และแผนผังความคิด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. การศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต, ภาควิชาหลักสูตรและการสอน, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Hattie, J. (2009). Visible learning: A synthesis of over 800 meta-ana lyses related to achievement. London: Routledge.
Trilling, B., & Fadel, C. (2009). 21st Century Skills: Learning for Life in Our Times. San Francisco, CA: John Wiley & Sons.
Prince, M. (2004). Does Active Learning Work? A Review of the Research. Journal of Engineering Education, 93, 223-231.