โปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน สำหรับครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ ความต้องการจำเป็น และแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 2) สร้าง และตรวจสอบยืนยันความเหมาะสม ประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู ในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคามเขต 2 จำนวน 302 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลการ สัมภาษณ์ จำนวน 6 คน ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบยืนยันโปรแกรมโดยวิธีการสนทนากลุ่ม จำนวน 5 คน และผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ความเป็นประโยชน์ จำนวน 15 คน โดยเลือกแบบ เจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ของโปรแกรม สถิติที ่ใช้ ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัจจุบันของการเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับครู โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และความต้องการจําเป็นในการเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับครู เรียงลำดับความสำคัญ ของความต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านสื่อ และเทคโนโลยี ด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ด้านการกำหนดจุดประสงค์การเรียน และด้านการวัดและประเมินผล ตามลำดับ 2) โปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับครู ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4). วิธีการพัฒนา และ 5) การประเมินผล ผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสำหรับครู โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
คุรุสภา. (2563). การพัฒนาการศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์คุรุสภา.
จริยาภรณ์ ตู้คำมูล. (2563). การพัฒนาแนวทางการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ชบาพร พิมวัน. (2563). นวัตกรรมการสอนในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ครูไทย.
เชิญตะวัน สุวรรณพานิช. (2556). แนวทางการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. สำนักพิมพ์การศึกษาไทย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
ปฐมาภรณ์ ปะการะโพธิ. (2564). การพัฒนาโปรแกรมการจัดการเรียนรู้ของครูในศตวรรษที่ 21 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
มนตรี วงษ์สะพาน. (2556). ทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์การศึกษาไทย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2. (2567). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2567. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2556). การปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สภาการศึกษา.
สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ. (2553). แนวทางการพัฒนาครูสู่ความเป็นมืออาชีพ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ครุศาสตร์.
สุทธิณี สุขคร. (2564). โปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ตามวัฏจักร 4 MAT สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วิจารณ์ พานิช. (2556). การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในศตวรรษที่ 21. สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2561). การศึกษาเชิงรุก: ทิศทางใหม่ของการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Hough, J. B., & Duncan, J. K. (1970). Teaching: Description and analysis. Addison-Wesley Publishing Company.
Brame, C. J. (2013). Flipping the classroom. Vanderbilt University Center for Teaching. Retrieved March 16, 2025 from https://cft.vanderbilt.edu/guides-sub-pages/flipping-the-classroom.