การบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษา กลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษา แม่สลองใน อําเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาการบริหารจัดการความปลอดภัยของสถานศึกษา กลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษาแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต3 2) เปรียบเทียบการบริหารจัดการความปลอดภัยของสถานศึกษา กลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษาแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำแนกตาม ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และ ขนาดของสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 123 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ พบว่า มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) เท่ากับ 1.00 และ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 เมื่อประเมินด้วยวิธีสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test independent) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า
1. การบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษาของกลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษาแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 พบว่าอยู่ในระดับมากทั้ง 5 ด้าน เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่า ด้านการรักษาสุขภาพอนามัยของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือด้านการป้องกันและแก้ไขอุบัติภัย ด้านการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุ ด้านการควบคุมความปลอดภัยในการใช้งานอาคารสถานที่ และด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางสังคม ตามลำดับ
2. ผลการเปรียบเทียบการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษาของกลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษาแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำแนกตามระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และขนาดของสถานศึกษา พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งในภาพรวมและรายด้าน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). คู่มือการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา.กรุงเทพฯ:กระทรวงศึกษาธิการ.
เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ. (2561). 5 มิติความปลอดภัยของเด็ก เริ่มสร้างได้ “โรงเรียน”. เรียกใช้เมื่อ 10 ธันวาคม 2561 จาก http://mgronline.com/qol/detail/9610000120198.
กนกอร อุ่นสถานนท์. (2563). การบริหารด้านความปลอดภัยของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 กรุงเทพมหานคร. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 10(2), 1-14.
กฤษดา ไพรลักษณ์ และ ธีระภัทร ประสมสุข. (2567). การบริหารงานความปลอดภัยนักเรียนของโรงเรียนในพื้นที่สูง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6. วารสารนวัตกรรมการจัดการศึกษาและการวิจัย. 6(6), 1427-1438.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพ: สุวีริยาสาส์น.
ผกากรอง ด้วงสุข และ จรัส อติวิทยาภรณ. (2568). การศึกษาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1. วารสารมหาจุฬานาคร ทรรศน์. 8(2), 29-42.
ศิริพรรณ เกตุแก้ว และ ปองสิน วิเศษศิริ. (2557). การดำเนินการรักษาความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางสังคมของโรงเรียนประถมศึกษา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา. 9(3), 170-180.
สุชีรา ใจหวัง. (2561). การศึกษาการจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1. วารสารบริหารการศึกษา มศว. 15(28): 50-61.
ศตวรรษ ถวิลคำ. (2566). การศึกษาการจัดการความปลอดภัยในโรงเรียน กลุ่มเครือข่ายที่ 42-43 สำนักงานเขตหนองจอก สังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการการจัดการภาครัฐและเอกชน. 5(2), 209-222.
ศาศวัต ธนุนาจารย์ (2566).การบริหารความปลอดภัยในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา เอกชน ในเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์. 9(3), 292-310
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3. (2565). แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566-2570). เชียงราย: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560 – 2579. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
Bartlett, J. E., Kotrlik, J. W., & Higgins, C. C. (2001). Organizational research: Determining appropriate sample size in survey research. Information Technology, Learning, and Performance Journal. 19(1), 43-50.
