สภาพปัญหา ความต้องการจำเป็น และแนวทางพัฒนาการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1

Main Article Content

สุวิจักขณ์ มั่นสารนียธรรม

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นในการดำเนินงานการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการดำเนินงานการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพแบบพรรณนา เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก ใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง     ทำการบันทึกเสียงและบันทึกภาคสนาม ผู้ให้ข้อมูลมาจากการเลือกแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดและสมัครใจเข้าร่วมงานวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาตามวิธีการของเฮนและเชนอน


ผลการศึกษา พบว่า


1) สภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นในการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 มี 4 ประเด็น ได้แก่ ปัญหาและความต้องการจำเป็นด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านการจัดการ


2) แนวทางพัฒนาการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 มี 4 ประเด็น ได้แก่ แนวทางในการพัฒนาด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านการจัดการ


การศึกษาในครั้งนี้ช่วยให้เกิดความเข้าใจสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นของโรงเรียนขนาดเล็กในดำเนินงานการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถานศึกษาอื่น ๆ สามารถนำผลการศึกษาไปใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารงานบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2556). คู่มือการบริหารโรงเรียนในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

. (2564). นโยบายกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ กระทรวงศึกษาธิการ.

กัญภร เอี่ยมพญา และคณะ. (2565). โรงเรียนขนาดเล็ก : ปัญหาที่ต้องตัดสินใจ. วารสารสิรินธรปริทรรศน์, 23(1), 317.

ชัยชนะ ราชไชย และ จิรวัฒน์ วรุณโรจน์. (2564). ความต้องการจำเป็นในการบริหาร ทรัพยากรทางการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1. สิกขาวารสารศึกษาศาสตร์, 8(2), 206.

พิลัยวรรณ มาแป. (2560). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในการจัดการศึกษาของครูในโรงเรียน อำเภอสอยดาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2. ใน งานนิพนธ์ หลักสูรตการศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

ยุุพาวี สาริโส คมสันทิ์ และ คณะ. (2567). สภาพ ความต้องการจำเป็นและแนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์. วารสารครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 21(1), 154-155.

สิริพร มิ่งวงศ์ธรรม ศิกานต์ เพียรธัญญกรณ์ และเพลินพิศ ธรรมรัตน์ (2566). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยคัดสรรที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการใช้เทคโนโลยี ในการบริหารโรงเรียนยุคดิจิทัลของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(2), 142 – 143.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2566). นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2562). ทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล. นนทบุรี: โรงพิมพ์สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2565). แผนปฏิบัติราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

Drucker, P. F. (1973). Management: Tasks, Responsibilities, Practices. New York: Harper & Row Publication.

Hennink, M., & Kaiser, B. N. (2022). Sample sizes for saturation in qualitative research: A systematic review of empirical tests. Social Science & Medicine (1982), 292, 114523. https://doi.org/10.1016/j.socscimed .2021.114523

Hsieh, H.-F., & Shannon, S. E. (2005). Three approaches to qualitative content analysis Qualitative Health Research, 15(9), 1277–1288. https://doi.org/10.1177/1049732305276687

Lincoln, Y. S., & Guba, E. G. (1985). Naturalistic inquiry. Sage.