ประสิทธิผลของโปรแกรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของจิตใจร่วมกับการดูแลด้านจิตสังคมต่อความเข้มแข็งของจิตใจในผู้ป่วยที่พยายามฆ่าตัวตาย

ผู้แต่ง

  • กนกภรณ์ ทองคุ้ม -

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความเข้มแข็งของจิตใจก่อนและหลังได้รับโปรแกรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของจิตใจร่วมกับการดูแลด้านจิตสังคม และความเข้มแข็งของจิตใจระหว่างกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมกับกลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่พยายามฆ่าตัวตายที่มารับบริการในโรงพยาบาลค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 30 คน จับคู่ให้มีลักษณะคล้ายคลึงกันด้านเพศและอายุ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โปรแกรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของจิตใจร่วมกับการดูแลด้านจิตสังคม และแบบประเมินพลังสุขภาพจิต ของกรมสุขภาพจิต มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.749 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความเข้มแข็งของจิตใจสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรม และมีความเข้มแข็งของจิตใจสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

สรุปผลการวิจัย ประสิทธิผลของโปรแกรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของจิตใจร่วมกับการดูแลด้านจิตสังคม สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มผู้ป่วยที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยไม่กลับไปมีพฤติกรรมพยายามฆ่าตัวตายซ้ำ สอดคล้องกับตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละของผู้พยายามฆ่าตัวตายไม่กลับมาทำร้ายตัวเองซ้ำในระยะเวลา 1 ปี ส่งผลให้อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่ลดลง

คัญ : ความเข้มแข็งของจิตใจ การดูแลด้านจิตสังคม ผู้พยายามฆ่าตัวตาย

References

Chen, C. S., Chan, S. W. C., Chan, M. F., Yap, S. F., Wang, W., & Kowitlawakul, Y. (2017). Nurses’

perceptions of psychosocial care and barriers to its provision: A qualitative

study. Journal of nursing research, 25(6), 411-418.

Filej, B., & Kaucic, B. M. (2013). Holistic nursing practice. South Eastern Europe Health

Sciences Journal, 3(1), 1-7.

Grotberg, E. H. (1995). The International Resilience Project: Research and Application.

Polit, D. F., & Beck, C. T. (2004). Nursing research: Principles and methods. Lippincott Williams

& Wilkins.

Ram, D., Chandran, S., Sadar, A., & Gowdappa, B. (2019). Correlation of cognitive resilience,

cognitive flexibility and impulsivity in attempted suicide. Indian journal of psychological

medicine, 41(4), 362-367.

World Health Organization. (2023, October 26). Suicide prevention. Suicide (who.int)

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2566). ตัวชี้วัดที่ 029.1: อัตรา

การฆ่าตัวตายสำเร็จ. http://healthkpi.moph.go.th/

กรรณิการ์ ผ่องโต, และอรพรรณ ลือบุญธวัชชัย. (2557). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ

ต่อความคิดฆ่าตัวตายในผู้ที่พยายามฆ่าตัวตาย. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 28(1),

-132.

โปรแกรม HOSxP File version 3.66.9.8. โรงพยาบาลค่ายบางระจัน. (2565). Patient EMR: OPD Scan:

HOSxP viewer. สิงห์บุรี, โรงพยาบาลค่ายบางระจัน.

พจนีย์ ขูลีลัง. (2566). การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย : กรณีศึกษาในหอผู้ป่วยจิตเวช

โรงพยาบาลมหาสารคาม. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์, 38(2), 437-447.

ภิญญดา ภัทรกิจจาธร, และจิรวรรณ ชัยวิศิษฎ์. (2563). แนวทางการประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วยจิตเวช

ตามแบบแผนด้านสุขภาพของกอร์ดอน. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, 10(1), 156-159.

ศรุตา เขียวผิว, และธนัชญา จั่นเล็ก. (2564). การฆ่าตัวตายในภาวะทุนนิยมของสังคมไทยปัจจุบัน. วารสาร

ธรรมศาสตร์, 40(3), 140-160.

สมบูรณ์ หทัยอยู่สุข, และสุพร อภินันทเวช. (2563). การฆ่าตัวตายของวัยรุ่นในประเทศไทย : อุบัติการณ์

สาเหตุ และการป้องกัน. เวชบันทึกศิริราช, 13(1), 40-47.

สกาวรัตน์ พวงลัดดา, ชนกานต์ เนตรสุนทร, สุจินต์ ฐิติพิเชฐกุล, และจันทร ยี่สุ่นศรี. (2556). การพัฒนา

รูปแบบการพยาบาลด้านจิตสังคมสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า: กรณีศึกษาผู้ป่วยนอก. วารสารการพยาบาล

จิตเวชและสุขภาพจิต, 27(2), 126-142.

สุดคนึง ฤทธิ์ฤาชัย, วรรณบูรณ์ ฟักอุดม และสฤษดิ์เดช เจริญไชย. (2564). การพัฒนาทักษะการปฐมพยาบาล

ด้านจิตใจทางโทรศัพท์: การอบรมออนไลน์ในยุดโควิด แก่ทีมสหสาขาวิชาชีพในระบบสุขภาพปฐมภูมิ.

วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 14(1), 1-13.

สุพัตรา สุขาวห, และสุวรรณา อรุณพงค์ไพศาล. (2560). ปัจจัยเสี่ยงและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย

ในวัยรุ่น: การทบทวนวรรณกรรมเชิงลึก. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. 62(4), 359-378.

โสฬวรรณ อินทสิทธิ์, สิริกุล จุลคีรี, และบรรณาธิการ. (2563). คู่มือการดูแลทางสังคมจิตใจ สำหรับพยาบาล.

พิมพ์ครั้งที่ 2. บริษัท บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด.

โสฬวรรณ อินทสิทธิ์ สิริกุล จุลคีรีและบรรณาธิการ. (2563). “เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี พลังสุขภาพจิต RQ:

Resilience Quotient ,” พิมพ์ครั้งที่ 4. บริษัท บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี. (2566, กรกฎาคม). รายงานผลการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี รอบที่ 2/2566 [เอกสารนำเสนอ

ในที่ประชุม]. การประชุมการตรวจราชการและนิเทศงานกรณีปกติ รอบที่ 2/2566 เขตสุขภาพที่ 4

ระหว่างวันที่ 10 – 12 กรกฎาคม 2566 (หน้า 56-57). สิงห์บุรี.

อนงค์ อรุณรุ่ง. (2551). การศึกษาการใช้โปรแกรม การให้คำปรึกษาครอบครัวต่อความคิด ฆ่าตัวตายของผู้ที่

พยายามฆ่าตัวตาย โรงพยาบาลลาดบัวหลวง. โครงการศึกษา อิสระสาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพจิต

และจิตเวช, คณะพยาบาลศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อนุกูล หุ่นงาม และสมบัติ สกุลพรรณ์. (2565). บทบาทของพยาบาลจิตเวชในการจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายซ้ำ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 16(3), 1-14.

อรพิน ยอดกลาง, มธุรส ทิพยมงคลกุล และคณะ. (2563). การป้องกันและลดปัญหาการฆ่าตัวตาย

ในประเทศไทย [โครงการวิจัย]. โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์.

อุมาพร ตรังคสมบัติ. (2554). จิตบำบัดและการ ให้คำปรึกษาครอบครัว (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพมหานคร:

ซันต้าการพิมพ์.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-01-02

How to Cite

ทองคุ้ม ก. (2025). ประสิทธิผลของโปรแกรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของจิตใจร่วมกับการดูแลด้านจิตสังคมต่อความเข้มแข็งของจิตใจในผู้ป่วยที่พยายามฆ่าตัวตาย . วารสารบริหารการพัฒนานวัตกรรมเชิงบูรณาการ, 5(1), 14–27. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/IIDMJ/article/view/1576