ผลการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรมที่มีต่อพฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับปฐมวัย อายุระหว่าง 4-5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านจานลาน อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 25 คน โดยใช้สุ่มแบบกลุ่มในการจัดกิจกรรมทั้งหมด จำนวน 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 วัน ได้แก่ วันอังคาร และวันพุธ วันละ 15 - 20 นาที จำนวน 8 แผน ในกิจกรรมเสรีและเล่นตามมุม รวมทั้งหมด 16 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) นิทานคุณธรรม จำนวน 8 เรื่อง มีค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) แผนการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรม จำนวน 8 แผน มีค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัย มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .70 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเล่านิทานคุณธรรม โดยใช้สถิติ t-test แบบ Dependent Samples
ผลการวิจัย พบว่า
- ผลการศึกษาระดับพฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัด กิจกรรมการเล่านิทานคุณธรรม โดยรวมพบว่า พฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัยหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานคุณธรรม มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรม พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า 1) ด้านตระหนักถึงความคิดเห็นของกลุ่ม 2) ด้านมีจิตใจใฝ่บริการช่วยเหลือ 3) ด้านให้โอกาสผู้อื่น 4) ด้านเข้าใจผู้อื่น 5) ด้านส่งเสริมผู้อื่น พฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัยหลังได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรมมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรม
- ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมการเห็นอกเห็นใจของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรม พบว่า ภายหลังได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานคุณธรรมเด็กปฐมวัยมีระดับพฤติกรรม การเห็นอกเห็นใจโดยรวมและรายด้านสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กฤษดา โยธาราษฎ์. (2565). การจัดการเรียนรู้แบบอรรถฐานการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการฟังพูดภาษาอังกฤษและความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัย. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
จินดา หีบเพ็ชร. (2558). ผลการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบสถานการณ์จำลองที่มีต่อความรับผิดชอบของเด็กปฐมวัย โรงเรียนวัดเขาขุนพนม. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ, 17(2), 131–139.
ธีรพัฒน์ วงศ์คุ้มสิน. (2561). การพัฒนาความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของนิสิตจิตวิทยามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยโปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม. วารสาร สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 47(1), 75-98.
ปัทมา ศิวะโถศิษฐ. (2562). ผลของการเล่านิทานและบทบาทของนิทานในการส่งเสริมพฤติกรรมทางจริยธรรมของเด็กปฐมวัยที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนเอกชน. วารสารวิทยาบริการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 30(1), 178-188.
ประภัสสร บราวน์ และแสงสุรีย์ ดวงคำน้อย. (2564). การพัฒนาความสามารถในการพูดของเด็กปฐมวัยด้วยกิจกรรมการแสดงประกอบการเล่านิทาน. วารสารวิชาการและวิจัยมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 11(1), 194-206.
ปิยะนุช ซอดนอก และสิริลักษณ์ โปร่งสันเทียะ. (2564). ผลของกิจกรรมจิตศึกษาที่มีต่อการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นของเด็กปฐมวัย. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 36(1), 18-30.
นิภา ดิษฐสุวรรณ. (2562). ผลการจัดกิจกรรมการเล่านิทานสองภาษาร่วมกับสื่อประสมที่มีต่อความสามารถ ในการฟังและพูดภาษาไทยของเด็กปฐมวัยที่ใช้ภาษามลายูถิ่นเป็นภาษาแม่. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยทักษิณ.
วีรญา สุวรรณวงศ์. (2564). การพัฒนาคุณลักษณะความเป็นคนดีของเด็กปฐมวัย โดยการจัดประสบการณ์การเล่านิทานคุณธรรม. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.