บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการสร้างแรงจูงใจการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา

Main Article Content

ปรัชญาพร ชู้กระโทก

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการสร้างแรงจูงใจการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา 2. เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการสร้างแรงจูงใจการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา จำแนกตาม ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน และระดับชั้นที่สอน 3. เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการสร้างแรงจูงใจการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยบุคลากรจากโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 354 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วยแบบสอบถามที่ใช้มาตราส่วน 5 ระดับ ซึ่งมีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.80 – 1.00 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.80 รวมถึงแบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t, ค่า F และการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีการของเชฟเฟ่


ผลการศึกษา พบว่า


  1. บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการสร้างแรงจูงใจให้ครูในโรงเรียนเอกชนของจังหวัดนครราชสีมา โดยรวมพบว่ามีระดับสูง

  2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของผู้บริหารตามระดับการศึกษา พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนในกรณีของประสบการณ์ทำงานและระดับชั้นที่สอน ไม่พบความแตกต่างทั้งในภาพรวมและรายด้าน

  3. แนวทางในการพัฒนาบทบาทของผู้บริหารเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจให้ครู ควรเน้นการสนับสนุนบุคลากรในด้านต่างๆ เช่น ความสำเร็จ การยอมรับนับถือ ลักษณะงาน ความรับผิดชอบ และความก้าวหน้า โดยมุ่งหวังให้เกิดความพึงพอใจและความมุ่งมั่นในงานสูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาองค์กรและความสำเร็จของโรงเรียนในระยะยาว

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา. (2567). ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา. เรียกใช้เมื่อ 31 ตุลาคม 2567 จาก http://www.nmapeo.go.th/

ฝาริด หมันหลี. (2565). “บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการเสริมสร้างแรงจูงใจการ ปฏิบัติงานของครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนเอกชนระดับมัธยมศึกษาใน สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดกระบี่”. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 13. 1: 2249-2263.

รุ่งนภา ละออกอ. (2565). “บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ของข้าราชการครูสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2”. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 13. 1: 1356 -1372.

สักการียา บินรัตแก้ว. (2563). ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3. วารสารสืบเนื่อง การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ 7: เรื่องนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและสังคมในยุคดิจิตอล, นครราชสีมา, ประเทศไทย. นครราชสีมา : ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา.

สุริยา เหล็มนุ้ย. (2567). “บทบาทของผู้บริหารในการสร้างแรงจูงใจการปฏิบัติงานของครู โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2”. วารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร, 7(2), 260-275.

สุพานี สฤษฏ์วานิช. (2552). การบริหารเชิงกลยุทธ์ : แนวคิดและทฤษฏี. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ด ยูเคชั่น

สุรศักดิ์ วณิชยวัฒนากุล. (2553). แรงจูงใจและการจูงใจ. เรียกใช้เมื่อ 31 ตุลาคม 2567 จาก http://www.novabizz.com

เสนาะ ติเยาว์. (2563). แนวทางการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดเล็ก จังหวัดนครสวรรค์. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

บวร เทศารินทร์. (2567). คุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน.

Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). “Determining sample size for research activities”. Educational and psychological measurement, 30(3), 607-610