การบริหารทรัพยากรบุคคลและการจัดการความขัดแย้งในองค์กร ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในจังหวัดชลบุรี

Main Article Content

ณฐาพัชร์ วรพงศ์พัชร์
พิชิต ภาสบุตร

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลและการจัดการความขัดแย้งในองค์กร ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในจังหวัดชลบุรี เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods) มีเครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม/แบบสัมภาษณ์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคคลากกรอุตสาหกรรมยานยนต์ในจังหวัดชลบุรี กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้ตารางหากลุ่มตัวอย่างของเครจซี่มอร์แกนที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95  ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวนรวมทั้งสิ้น 210 คน วิธีการสุ่มโดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง  แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย มาวิเคราะห์แบบเชิงเนื้อหา (Content Analysis) -test) แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเอกสาร วรรณกรรมและแบบสัมภาษณ์


ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถาบันการอาชีวศึกษามีความเหมาะสมในระดับมาก โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ 1) การยึดองค์กรเป็นศูนย์กลาง 2) การปรองดอง 3) การไกล่เกลี่ย 4) การยอมให้ 5) การหลีกเลี่ยง และผู้บริหารควรวิธีการสื่อสารในองค์กร ทักษะความเป็นผู้นำของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วรพงศ์พัชร์ ณ., & ภาสบุตร พ. (2024). การบริหารทรัพยากรบุคคลและการจัดการความขัดแย้งในองค์กร ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในจังหวัดชลบุรี. วารสารการจัดการการเมืองการปกครองและท้องถิ่น, 2(1), 1–14. สืบค้น จาก https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JPLM/article/view/757
ประเภทบทความ
Research article

เอกสารอ้างอิง

จิรกฤต จินดาสวัสดิ์และจุมพฏ บริราช. (2562). บุคลิกภาพห้าองค์ประกอบรูปแบบการจัดการกับความขัดแย้งและความพึงพอใจในงานที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานกรณีศึกษาอุตสาหกรรมผลิตคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังจังหวัดชลบุรี: The Big 5 of Personality, Conflict Management Styles and Job Satisfaction on Job Performance of Employees: Case Study of Computer and Accessories Industry Laem Chabang Industrial Estate, Chon Buri. MBA-KKU Journal, 12(2), 16-41

ชยุตพงศ์ นิลอ่อน, วิชัย โถสุวรรณจินดา, พันเอกบุญเอื้อ บุญฤทธิ์. (2562). การพัฒนาระบบแรงงานสัมพันธ์ของโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดชลบุรี. KASEM BUNDIT JOURNAL, 20(October), 85-100.

ณฐาพัชร์ วรพงศ์พัชร์และคณะ, (2563). รูปแบบการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ในพระราชูปถัมภ์, 14(2), 54-64.

ณฐาพัชร์ วรพงศ์พัชร์และคณะ. (2563). ลักษณะองค์การที่เป็นเลิศที่มีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารวิชาการสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์, 12(1), 30-45

ณฐาพัชร์ วรพงศ์พัชร์และคณะ. (2564). รูปแบบการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในสถาบันการอาชีวศึกษาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารบริหารศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 10(1), 23-35

บุญชม ศรีสะอาด และคณะ. (2558). พื้นฐานการวิจัยการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กาฬสินธุ์: ตักสิลาการพิมพ์.

บุญฑริกา วงษ์วานิชและทิพย์รัตน์ เลาหวิเชียร. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการ ความขัดแย้งและพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรของพนักงานในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิชาการ มทร.สุวรรณภูมิ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 4(1), 12-22.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). การวัดด้านจิตพิสัย. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสานส์น.

ศรีเสด็จ กองแกน. (2566). การจัดการความขัดแย้ง. วารสารส่งเสริมและพัฒนาวิชาการสมัยใหม่, 1(2), 36-49

สายสุนีย์ เมฆอรุณ, เกษมพันธุ์ ชนะทัพ,กาญจนา ธาราพรรค์. (2564). แนวทางการเลือกใช้กลยุทธ์เพื่อจัดการความขัดแย้งภายในองค์กรของผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิต อาหารเขตภาคตะวันออก. วารสารบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม, 3(1), 82-99

Krejcie, R. V. & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activity. Educational and Psychological Measurement. 30(3), 607-610.

Mek-Arun, S., Chanathup, K., & Tarapun, K. (2021). แนวทางการเลือกใช้กลยุทธ์ เพื่อจัดการความขัดแย้งภายในองค์กรของผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารเขตภาคตะวันออก. Journal of Industrial Business Administration, 3(1), 82-99.

Saheem, N., & Dongnadeng, H. A. (2023). การวิเคราะห์ความขัดแย้งจากโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่: กรณีศึกษานิคมอุตสาหกรรมจะนะ. Conflict and Peace Studies Journal, 143-178