การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยการจัดการเรียนรู้เทคนิคโฟนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาคอแลน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5

Main Article Content

ศุภนิดา จารุแพทย์
สมร ทวีบุญ
ระพิน ชูชื่น
วลีรัตน์ ฉิมน้อย

บทคัดย่อ

        การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เทคนิคโฟนิกส์ เรื่องการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนด้วยการสอนแบบโฟนิกส์ และ 3) เปรียบเทียบทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำก่อนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนป่าแขมหนองเรือ ปีการศึกษา 2567 จำนวน 30 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ 10 แผน แบบวัดผลการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ (Checklists) และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทีแบบกลุ่มเดียว (One Sample t-test)
        ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.85/83.50 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนมีทักษะการอ่านออกเสียงและสะกดคำภาษาอังกฤษหลังเรียนด้วยเทคนิคโฟนิกส์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

จารุวรรณ ไม้เลี้ยง. (2562). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีโฟนิกส์เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงและจำความหมายของคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารการวิจัยการศึกษา, 41(2), 230–245.

นันทนภัส ช่างเงิน. (2566). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารวิจัยการศึกษา, 34(1), 112–127.

ปภาพินท์ นิยมพันธ์. (2566). ผลการใช้วิธีการสอนแบบโฟนิคส์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสารการศึกษาประถมศึกษา, 45(3), 205–220.

พัชริน ป้องสนาม. (2561). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิกส์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

วัชรพล วิบูลยศริน. (2561). ความสำคัญของแผนการจัดการเรียนรู้. วารสารการศึกษาทั่วไป,29(2), 45–58.

วิดาด์ อัล บัททาห์, ภูษิต บุญทองเถิง, & ทัศนีย์ นาคุณทรง. (2566). การพัฒนาการเรียนรู้การอ่านออกเสียงและการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วิธีการสอนตามหลักการโฟนิกส์. วารสารการศึกษาพื้นฐาน, 52(1), 119–132.

อรปวีณ์ กุลพรเพ็ญ & ชนากานต์ แป้นรักษา. (2566). การใช้โฟนิกส์สังเคราะห์เพื่อพัฒนา ความสามารถในการอ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเกตุพิชัยวิทยา จังหวัดสระบุรี. วารสารวิจัยการศึกษา, 34(2), 150–165.

Adams, M. J. (1990). Beginning to read: Thinking and learning about print.

MIT Press.

Johnson, N. S. (2019). Understanding the perspective of educators and

administrators as it relates to the effectiveness of phonics and phonemic awareness reading instructions for elementary students (Doctoral dissertation, University of Northern Colorado). ProQuest Dissertations Publishing.

Ehri, L. C. (2005). Learning to read words: Theory, findings, and issues. Scientific

Studies of Reading, 9(2), 167–188.

National Reading Panel. (2000). Teaching children to read: An evidence-based

assessment of the scientific research literature on reading and its implications for reading instruction. National Institute of Child Health and Human Development.