เจตคติของนักศึกษาที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ตามแนวการสอนแบบ ACTIVE Reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

Main Article Content

ปราณีต ม่วงนวล
อรุณวรรณ ชูสังกิจ
วิโรจน์ เจษฎาดิลก
ยอร์ช เสมอมิตร

บทคัดย่อ

        การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเจตคติของนักศึกษาที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ตามแนวการสอนแบบ ACTIVE Reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาการอ่านอังกฤษธุรกิจ  ปีการศึกษา 2563 จำนวน 96 คน กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นรูปแบบการสอน ฯ และแบบวัดเจตคติต่อรูปแบบการสอนฯ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
        ผลการวิจัยพบว่า ระดับเจตคติหลังเรียนของนักศึกษาที่มีต่อรูปแบบการสอน ฯ อยู่ในระดับเห็นด้วยต่อการใช้รูปแบบการสอน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ย = 4.31 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.59 สำหรับผลการศึกษาเจตคติในรายข้อพบว่า ข้อที่มีระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งมากที่สุด มี 2 ข้อ คือ กิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และการเรียนการสอนตามรูปแบบส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับความรู้จากกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างหลากหลาย ( =  4.78, S.D. = 0.42) รองลงมามี 2 ข้อ คือ การเรียนตามรูปแบบช่วยล่งเสริมให้ผู้เรียนได้แบ่งปัน และแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ และการเรียนการสอนตามรูปแบบส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการอ่านและการเรียนรู้ ( =4.75, S.D. = 0.44) และข้อที่ระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งน้อยที่สุดคือ ผู้เรียนสามารถนำความรู้ความเข้าใจจากการอ่านภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ( = 4.66, S.D. = 0.55)  

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

กฤษณะ โฆษชุณหนันท์. (2561). การพัฒนารูปแบบการสอนทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดย

วิธีเอส คิว โฟร์ อาร์ (SQ4R) และการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยบูรพา.

ถิรนันท์ ปานศุภวัชร. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามแนวการสอนแบบปฏิสัมพันธ์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถการอ่านเพื่อความเข้าใจและความสุขในการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พรทิพย์ วงศ์ไพบูลย์. (2560). การเรียนรู้เชิงรุกและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning). วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 8(2), 327-336.

ปราณีต ม่วงนวล. (2560). การอ่านคิดวิเคราะห์ (Analytical Reading). กรุงเทพมหานคร: สหธรรมิก.

ระพีพรรณ สุฐาปัญณกุล และวิสาข์ จัติวัตร์. การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเทคนิคโดยวิธีการสอนที่เน้นภาระงานและโครงงานเพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาปริญญาตรี. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 8(1), 167-182.

รุ่งนภา ชีวรัศมีและคณะ. (2562). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือในการอ่านภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ การอ่านอย่างมีวิจารณญาณและความตระหนักด้านจริยธรรมธุรกิจ สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร. วารสารสังคมศาสตร์และนุษยศาสตร, 12(3), 1210-1227.

ลัดดา กิติวิภาต. (2554). เจตคติและความคิดเห็น. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วัชรีพร สุทธิกรกมล. (2559). ผลของการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

วัฒนาพร ระงับทุกข์. (2542). การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพมหานคร: เลิฟแอนด์เลิฟเพรส.

วิเชียร อินทรสมพันธ์ ปราณีต ม่วงนวล และ ณัฐมน พันธุ์ชาตรี. (2565). การจัดการเรียนรู้เชิง

รุกและการประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริงด้วยแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักศึกษาครู. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 12(2), 108-118.

วิสาข์ จัติวัตร์ (2558). การสอนอ่านภาษาอังกฤษ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

อุมาพร บัวศรี. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านคิดวิเคราะห์โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค จิกซอว์ 2 ร่วมกับบทอ่านจากสื่อออนไลน์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 4(2), 169-182.

อรรชนิดา หวานคง. (2565). การรับรู้และทัศนคติของนักศึกษาสาขาภาษาอังกฤษที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 10(1), 156-172.

Anderson, N. J. (1999). Exploring second language reading issues and strategies. Mason, Ohio: Cengage Learning.

Anderson, N. J. (2003). Scrolling, clicking, and reading English: Online reading strategies in a second/foreign language. The Reading Matrix, 3, 1-33.

Gebhard, J. G. (1985). Teaching reading through assumptions about learning. English Teaching Forum, 23(3), 16-20.

Gunning, T. G. (1992). Creating reading instruction for all children. Massachusetts: Allyn and Bacon.

Kagan, S. (1995). Cooperative learning and Wee Science. San Clemento: Kagan Cooperative Learning, Cooperative Learning.

Likert, R. (1967). The human organization: Its management and value. New York: McGraw-Hill.

Nawab, M., Nawab, U., & Mughal, A. (2019). Attitude towards learning communication skills among undergraduate medical students of a publicuniversity. Journal of Rawalpindi Medical College, 23(2), 110–114.

Saylor, J. G., William, M. A., & Arthur, J. L. (1981). Curriculum planning for better teaching and learning. (4th ed.). New York: Holt, Rinehart and Winston.

Theerakarn Phoonprasit. (2021). A survey of attitudes towards and motivation in learning English of architecture students. An Independent Study. Language Institute, Thammasat University.