การพัฒนาโปรแกรมบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การดูแลผู้ป่วยในงานรังสีวิทยา (เวชศาสตร์นิวเคลียร์) สําหรับนักศึกษาหลักสูตรรังสีเทคนิค คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

Main Article Content

ปวรินทร์ ก้องพิริยะกุล
ไชยยันต์ ปาละมาณ
จงวัฒน์ ชีวกุล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาโปรแกรมบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การดูแลผู้ป่วยในงานรังสีวิทยา (เวชศาสตร์นิวเคลียร์) สําหรับนักศึกษาหลักสูตรรังสีเทคนิค 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียนด้วยโปรแกรมบทเรียนออนไลน์ และ 3. เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อโปรแกรมบทเรียนออนไลน์ การวิจัยครั้งนี้เป็น การวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาหลักสูตรรังสีเทคนิค คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำนวน 31 คน ​คัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบทดสอบความรู้ก่อน-หลังเรียนโปรแกรมบทเรียนออนไลน์ และแบบประเมินประสิทธิภาพโปรแกรมบทเรียนออนไลน์ สถิติที่ใช้คือ Paired samples t-test, ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน, ค่าความถี่, ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน


          ผลการวิจัยพบว่า 1) คะแนนหลังการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ
โดยค่าเฉลี่ยของคะแนน pre-test เท่ากับ 8.26 (SD = 1.983) และค่าเฉลี่ยของคะแนน post-test เท่ากับ 9.48 (SD = 0.851) โดยมีขนาดตัวอย่างทั้งหมด 31 คน ผลการทดสอบ Paired samples t-test แสดงให้เห็นว่าค่าความแตกต่างของคะแนน pre-test และ post-test
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p < 0.05 (t(30) = -3.607, p = 0.001)  2) ผลการเรียนรู้ผ่านโปรแกรมออนไลน์ ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของคะแนนการทดสอบหลังเรียนอย่างมีนัยสำคัญ
3) ความสัมพันธ์ระหว่างคะแนน pre-test, post-test และ GPA พบว่าค่าความสัมพันธ์ระหว่างคะแนน pre-test และ post-test เท่ากับ r = 0.319 โดยมีค่า p = 0.081 ซึ่งมากกว่า 0.05 แสดงให้เห็นว่าไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) ค่าความสัมพันธ์ที่เป็นบวกบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มที่คะแนนทั้งสองอาจมีความเกี่ยวข้องกันในระดับต่ำ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

ขวัญชัย ขัวนา และธารทิพย์ ขัวนา. (2020). การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ (E - LEARNING) รายวิชาการจัดการ เรียนรู้ สําหรับนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(12), 295–306.

ดวงมณี แสนมั่น, นนกาญจน์ ฉิมพลี, และวิภาวรรณ อารยะชัย. (2561). การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนด้วย แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนในรายวิชาโลหิตวิทยา. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 38(3), 73-89.

ประสาท เนืองเฉลิม. (2558). การเรียนรู้;วิทยาศาสตร์.ในศตวรรษที่ 21. เรียกใช้เมื่อ 10 มกราคม 2568 จาก https://www.researchgate.net/profile/PrasartNuangchalerm/publication/296671638_Objectives_of_the_21st_Century_Teaching_and_Learning_in_Science/links/56d7947308aebabdb4030a45/Objectives-of-the-21st-Century-Teaching-and-Learning-in-Science.pdf

พจี เจาฑะเกษตรนิ. (2553). การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยสารเภสัชรังสี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ พี.เอ. ลิฟวิ่ง จํากัด.

พลศักดิ์ คงแก้ว และคณะ. (2022). การพัฒนาสื่อการเรียนรู้แบบปฏิสัมพันธ์สามมิติด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม: หลักการทำงานและส่วนประกอบของเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ชนิด สองค่าพลังงาน. วารสารรังสีเทคนิค, 1(47), 73-82.

International Atomic Energy Agency. (2013). System of radiological protection. เรียกใช้เมื่อ 8ธันวาคม 2568 จาก http://www.iaea.org/Publications/Booklets/Rad People Env/pdf/chapter

_6.pdf

Rosenberg, M. J. (2001) E-Learning: Strategies for Delivering Knowledge in the Digital Age. McGraw-Hill, New York.