ปัจจัยการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกลุ่มสตรีในจังหวัดปทุมธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีเป้าหมายเพื่อ 1) สำรวจระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีในจังหวัดปทุมธานี 2) วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีในพื้นที่ดังกล่าว และ 3) นำเสนอแนวทางพัฒนาเพื่อส่งเสริมบทบาททางการเมืองของกลุ่มสตรี การวิจัยใช้ระเบียบวิธีแบบผสมผสาน โดยอ้างอิงแนวคิดและทฤษฎีของนอร์แมน ไน และซิดนีย์ เวอร์บา ในส่วนของการศึกษาภาคปริมาณ กลุ่มประชากรเป้าหมายคือสตรีที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสิ้น 632,655 คน กลุ่มตัวอย่างถูกกำหนดตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน ได้จำนวน 384 คน ขณะที่การศึกษาเชิงคุณภาพมีการสัมภาษณ์ข้าราชการสตรี กลุ่มแม่บ้าน และนักการเมืองสตรีในจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสิ้น 15 คน โดยใช้เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลอาศัยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการศึกษาพบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีในจังหวัดปทุมธานีโดยรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่ามี 4 ด้านที่อยู่ในระดับสูง และ 1 ด้านอยู่ในระดับปานกลาง โดยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคมมีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ขณะที่ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมทางการเมืองมีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด 2) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มสตรีโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมี 2 ด้านที่อยู่ในระดับสูง และอีก 2 ด้านอยู่ในระดับปานกลาง กิจกรรมที่มีการมีส่วนร่วมมากที่สุดคือการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง รองลงมาคือการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ ขณะที่การรณรงค์หาเสียงและการเข้าร่วมกิจกรรมบางอย่างขององค์กรเป็นกิจกรรมที่มีการมีส่วนร่วมน้อยที่สุด 3) ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง พบว่า ปัจจัยด้านการสื่อสาร ด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคม และด้านสิ่งแวดล้อมทางการเมืองมีผลต่อการมีส่วนร่วมของสตรีอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ปัจจัยด้านสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงปัจจัยด้านจิตวิทยาไม่มีผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีในจังหวัดปทุมธานี
ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมบทบาทของสตรีในกระบวนการทางการเมือง รวมถึงออกแบบมาตรการที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของสตรีในสังคมการเมืองต่อไป
Article Details
References
วีระชัย ขันรุ่ง. (2553). การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในระดับท้องถิ่นเทศบาลในจังหวัดนนทบุรี. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
บุศรา โพธิสุข. (2558). การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชน: ศึกษาเฉพาะกรณีตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
บุศรา โพธิสุข. (2558). การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณีตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. ใน รายงานผลการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่.
ประยูร ศรีประสาธน์. (2542). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วม ในการดำเนินงานของคณะกรรมการการศึกษาประจำโรงเรียนประถมศึกษา. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ประเวช แสวงสุข. (2553). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในเขตทวีวัฒนา. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหิดล.
ภูสิทธ์ ขันติกุล. (2553). รูปแบบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร. ใน รายงานผลการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
วีระชัย ขันรุ่ง. (2553). การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ในระดับท้องถิ่นเทศบาล ในจังหวัดนนทบุรี. ใน วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. มหาวิทยาลัยปทุมธานี.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2561). การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2561). ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
สำนักงานสถิติจังหวัดปทุมธานี. (2565). กลุ่มสตรีที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไปที่พักอาศัยอยู่ในจังหวัดปทุมธานี. เรียกใช้เมื่อ 12 มิถุนายน 2568 จาก http://pathumthani.nso.go.th/index.php?lang=en.
Conway, M. M. (2001). Women and Political Participation: Cultural Change in the Political Arena. Washington, D.C.: Congressional Quarterly Press.
Dalton, R. J. (2008). Citizen Politics: Public Opinion and Political Parties in Advanced Industrial Democracies. Washington, D.C.: CQ Press.
Huntington, S. P., & Nelson, J. M. (1976). No Easy Choice: Political Participation in Developing Countries. Cambridge, MA: Harvard University Press.
Inglehart, R., & Norris, P. (2003). Rising Tide: Gender Equality and Cultural Change around the World. New York: Cambridge University Press.
Verba, S., Nie, N. H., & Kim, J. (1978). Participation and Political Equality: A Seven-Nation Comparison. Chicago: University of Chicago Press.
Verba, S., Schlozman, K. L., & Brady, H. E. (1995). Voice and Equality: Civic Voluntarism in American Politics. Cambridge, MA: Harvard University Press.
Barbara J. Nelson and Najma Chowdhury. (1994). Women and Politics Worldwide. Paperback: Yale University.
Cronbach, L. (1990). Essentials of Psychological testing. (5th ed). New York: Harper.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607 – 610.
Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale, in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.
McClosky, Herbert. (1968). Political Participation, in The International Encyclopedia of the Social Science. New York: McMillan and Free Press.
Norman H. Nie and Sidney Verba. (1975). Political Participation: in Handbook Political Sciences: Non Government Politic Reading by Greentein, I. Fred and Polsby. W. Nelson. Massachusett Adison Wesley.