กฎแห่งกรรม ฉบับผู้เชื่อในกรรม

Main Article Content

พระครูวินัยธรกรวีร์ สุรปญฺโญ (พรหมหิตร)
พระครูพิศาลสารบัณฑิต

บทคัดย่อ

กฎแห่งกรรมเป็นหลักคำสอนที่สำคัญอย่างหนึ่งในคำสอนของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในสังคมชาวพุทธไทยคำสอนเรื่องนี้มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนมิใช่น้อย ทำให้การดำเนินชีวิตสอดคล้องกับหลักศีลธรรมและเกิดสันติสุข เพราะการกระทำใดๆที่ไม่ดีผลกรรมก็จะสนองตอบผู้กระทำเหมือนเรากำธุลีซัดไปทางลมพัดพาธุลีไปถูกผู้ที่ยืนอยู่ในทิศทางลมผ่านฉันนั้น ผู้วิจารณ์ได้หยิบยกเอาหนังสือเรื่องดังกล่าวขึ้นมาวิจารณ์ เพราะตระหนักถึงความเชื่อกฎแห่งกรรมในสังคมชาวพุทธไทยนั้นมีความสำคัญและส่งผลดีต่อระบบจริยธรรมของคนในสังคมได้เป็นอย่างดี


              บรรดาปราชญ์พุทธไทยผู้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในอดีตจนปัจจุบัน คือ ท.เลียงพิบูลย์หรือชื่อเต็มว่า ทองหยก เลียงพิบูลย์ ท่านผู้นี้ได้มีอิทธิพลต่อแนวคิดเรื่องกฎแห่งกรรมของชาวพุทธไทยเป็นอย่างมาก จนมีการจัดตั้งชมรมกฎแห่งกรรม มีการประชุมพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อนำมาเขียนหรือบรรยายให้ผู้ชมได้รับฟัง รวมถึงการร่วมบำเพ็ญประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น การพิมพ์หนังสือเรื่องกฎแห่งกรรมเผยแพร่และผู้นำไปออกอากาศของวิทยุ สร้างเป็นบทละครวิทยุและโทรทัศน์ ทำให้ผู้ฟังได้ซาบซึ้งในการทำดี และเกลียดกลัวการทำความชั่วทางกาย วาจาและใจ เป็นจำนวนมาก


              ด้วยเหตุดังกล่าวผู้วิจารณ์จึงหยิบยกมาวิจารณ์ เพื่อเสนอความเชื่อกฎแห่งกรรมการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแบบง่ายๆ ที่คนทั่วไปเข้าใจได้อย่างดี เป็นการสอนหลักพุทธจริยธรรม ประโยชน์คุณค่าของกฎแห่งกรรม ดังรายละเอียดที่นำเสนอในแต่ละบทต่อไปนี้

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

ฐิติ อนัญญา, (2548). ธรรมเพิ่มพลังชีวิต. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ไพริน.

ท.เลียงพิบูลย์ (นามแฝง), (2548). กฎแห่งกรรม ฉบับผู้เชื่อในกรรม. กรุงเทพฯ: ช้างทอง.

พระเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลสังฆรณินายก. (2559). ชีวิตนี้น้อยนัก. กรุงเทพฯ: บริษัทพิมพ์สวย.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2551). ธรรมนูนชีวิต. กรุงเทพฯ: สถานบันบันลือธรรม

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ว.วชิรเมธี. (2555). รู้ก่อนตายไม่เสียดายชาติเกิด. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ปาน.

สำลี รักสุทธี, (2543). ศีลสุดยอดวินัยของพุทธศาสนา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา.