การพัฒนารูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วม ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาชลบุรี เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 2) พัฒนารูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 และ 3) ประเมินรูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 โดยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณใช้กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 จำนวน 375 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการถดถอยพหุคูณ สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพนั้น ทำการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำชุมชน และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย จำนวน 15 คน และการสนทนากลุ่ม 2 ครั้ง ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำชุมชน และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย จำนวน 12 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันของการพัฒนารูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) รูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1.ปัจจัยด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุในสถานศึกษา 2. ปัจจัยด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขอุบัติภัยในสถานศึกษา 3. ปัจจัยด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางสังคม 4. ปัจจัยด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยในสุขภาพอนามัยของนักเรียน และ 3) รูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษา เป็นรูปแบบที่ดีและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในสถานการณ์จริง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2556). แนวทางปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาฉบับปรับปรุงสำนักอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.
กฤษฎา ศรีสุชาติ. (2559). การพัฒนาตัวบ่งชี้และคู่มือโรงเรียนปลอดภัยของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ใน ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก. (2560). EEC Strategy : Thailand’s Competitive Transformation. กรุงเทพมหานคร: เศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวันออก.
ชฎาพรสุข สิริวรรณ. (2550). คู่มือโรงเรียนปลอดภัย. กรุงเทพมหานคร: โครงการเด็กไทย ปลอดภัยศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก.
ธีรวัฒน์ สมเพาะ. (2551). การจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลจังหวัด สมุทรปราการ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). รายงานประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2559. เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก. สำนักนโยบายและแผน, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
Barrios, Lisa C.et al.).(2003).CDC School Health Guidelines to Prevent Unintentional Injuries And Violence. American Journal of Health Education — September/October Supplement 2003, Volume 34, No. 5.
Flahertv, Lois T. (2015). Safety Assessment in Schools: Beyond Risk : The Role of Child Psychiatrists and Other Mental Health Professionals.Child and Adolescent Psychiatric Clinics of North America. Volume 24, Issue 2, April 2015, Pages 277–289.
Mori et al. (2012). Nagisa Mori and Francisco Armada. (2012). Walking to school in japan and Childhood Obesity Prevention : New Lessons From an Old Policy. Am J Public Health.
Varias, Keris et al.(2009). Urban Middle School Students' Perceptions of Bullying, yberbullying, And School Safety. Published online : http://dx.doi.org/10.1080/15388220802074165.
Yuto Kitamura. (2014). The possibility of holistic safety education in Japan: From the perspective of Education for Sustainable Development (ESD). International Association of Traffic and Safety Science.