บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับบทบาทของ อสม. 3. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทำงานกับบทบาทของ อสม. และ 4. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงสนับสนุนทางสังคมกับบทบาทของ อสม. โดยเลือกพื้นที่ศึกษาในอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งกำลังเผชิญกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การวิจัยนี้เป็น การวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือหลักในการเก็บข้อมูลจาก อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 200 คน ซึ่งถูกสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ข้อมูลที่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์โดยใช้ สถิติเชิงพรรณนา (ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และ สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Chi-square และ Pearson’s Correlation
ผลการวิจัยพบว่า
- บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ พบว่า อสม. มีบทบาทสำคัญใน 4 ด้าน ได้แก่ การให้ความรู้ด้านสุขภาพ (ร้อยละ 89.5) การเฝ้าระวังโรคเรื้อรัง (ร้อยละ 85.2) การให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิต (ร้อยละ 78.6) และการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ (ร้อยละ 92.3)
- ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พบว่า อายุและระยะเวลาปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์กับบทบาทของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) ขณะที่ เพศและระดับการศึกษาไม่มีความสัมพันธ์กับบทบาทของ อสม. (p > 0.05)
- ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทำงานกับบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พบว่า แรงจูงใจภายในมีความสัมพันธ์สูงกับบทบาทของ อสม. (r = 0.63, p < 0.01) และ แรงจูงใจภายนอกมีความสัมพันธ์ระดับปานกลาง (r = 0.48, p < 0.05)
- ความสัมพันธ์ระหว่างแรงสนับสนุนทางสังคมกับบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พบว่า แรงสนับสนุนด้านอารมณ์มีความสัมพันธ์สูงสุดกับบทบาทของ อสม. (r = 0.72, p < 0.01) รองลงมาคือ แรงสนับสนุนด้านข้อมูล (r = 0.55, p < 0.05) และ แรงสนับสนุนด้านทรัพยากรมีความสัมพันธ์ต่ำที่สุด (r = 0.39, p < 0.05)
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า อายุและประสบการณ์การทำงาน มีผลต่อบทบาทของ อสม. มากกว่าปัจจัยด้านเพศและระดับการศึกษา อีกทั้ง แรงจูงใจภายในและแรงสนับสนุนทางสังคม โดยเฉพาะด้านอารมณ์และข้อมูล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบทบาทของ อสม. ในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2565). แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุแห่งชาติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2566–2580). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2565). แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุแห่งชาติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2566–2580). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
ศุภลักษณ์ และคณะ. (2564). บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ. วารสารสาธารณสุขแห่งประเทศไทย, 30(4), 112-128.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2565). รายงานประชากรสูงอายุประเทศไทย 2565. กรุงเทพมหานคร: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี. (2565). รายงานสถานการณ์ด้านสุขภาพประชากรสูงอายุในจังหวัดกาญจนบุรี. กระทรวงสาธารณสุข.
อาภรณ์, พ. (2563). แรงจูงใจของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านต่อการปฏิบัติงานด้านส่งเสริมสุขภาพ. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาโท คณะสาธารณสุขศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหิดล.
Cobb, S. (1976). Social support as a moderator of life stress. Psychosomatic Medicine, 38(5), 300–314.
Department of Health, Ministry of Public Health. (2019). Annual report on elderly health promotion. Bangkok: Ministry of Public Health.
Department of Older Persons, Ministry of Social Development and Human Security. (2019). Thailand aging population report 2019. Bangkok: Ministry of Social Development and Human Security.
Herzberg, F. (1966). Work and the nature of man. Cleveland: World Publishing.
Primary Health Care Division, Department of Health Service Support, Ministry of Public Health. (2017). The role of village health volunteers in community health promotion. Bangkok: Ministry of Public Health.
Schaefer, C., Coyne, J. C., & Lazarus, R. S. (1981). The health-related functions of social support. Journal of Behavioral Medicine, 4(4), 381–406.