ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรี

Main Article Content

ขวัญเรือน ชัยนันท์
เจตต์ชัญญา บุญเฉลียว
ทิพย์สุคนธ์ ศรีลาธรรม
ณฐา เมธาบุษยาธร

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์ระดับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการให้บริการและดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2    เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ เช่น อายุ เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ และประสบการณ์การทำงาน กับระดับการปฏิบัติงานของ อสม. และ (3) ศึกษาปัจจัยด้านแรงจูงใจ เช่น ค่าตอบแทน การยอมรับทางสังคม และความพึงพอใจในการทำงาน ที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของ อสม.


         การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 300 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือหลัก และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Chi-Square Test, Pearson’s Correlation และ One-Way ANOVA


          ผลการศึกษาพบว่า


  1. 1. ระดับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางถึงสูง โดยอาสาสมัครมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเบาหวาน การแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนที่เหมาะสม การติดตามอาการ และส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตระหนักและความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองในชุมชน

  2. ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับระดับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ และประสบการณ์การทำงาน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับระดับการปฏิบัติงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) โดยอาสาสมัครที่มีอายุมากกว่า ระดับการศึกษาสูงกว่า รายได้สูงกว่า และมีประสบการณ์มากกว่า มีแนวโน้มที่จะปฏิบัติงานได้ดีกว่า ส่วนปัจจัยด้านเพศและอาชีพ ไม่มีความสัมพันธ์กับระดับการปฏิบัติงานของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

  3. ปัจจัยด้านแรงจูงใจที่มีความสัมพันธ์กับระดับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้แก่ ค่าตอบแทน การยอมรับทางสังคม และความพึงพอใจ ในการทำงาน ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระดับการปฏิบัติงานของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) โดยเฉพาะ การยอมรับทางสังคมและความพึงพอใจในการทำงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครในระดับสูง

        ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้ในการกำหนดแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวานอย่างต่อเนื่อง โดยควรส่งเสริมให้มีการอบรมความรู้เฉพาะทางที่เหมาะสมกับระดับการศึกษาและประสบการณ์ รวมถึงควรสร้างแรงจูงใจทางสังคม และระบบการยอมรับในชุมชนเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน


 

Article Details

บท
บทความ

References

กระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย ปี 2566. สำนักระบาดวิทยา.

_______. (2565). รายงานสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย ปี 2565. สำนักระบาดวิทยา.

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2565). แนวทางการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.). กระทรวงสาธารณสุข.

_______. (2564). รายงานผลการดำเนินงานด้านสุขภาพชุมชนประจำปี 2564. กระทรวงสาธารณสุข

ณัฐนนท์ บริสุทธิ์. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับประสิทธิภาพการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารวิทยาการจัดการ, 18(2), 75-89.

ณัฐวุฒิ วงศ์ไพศาล. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจและประสิทธิภาพการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารบริหารงานสาธารณสุข, 18(3), 75-89.

ปริญญา รัตนกาญจน์. (2562). ศักยภาพและบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

ในการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรัง. วารสารสุขภาพชุมชน, 8(2), 34-52.

ปภากร เผ่าเวียงคำ และศรีสุรางค์ เคหะนาค. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารวิจัยสาธารณสุขไทย, 10(1),

-62.

ปรางค์ จักรไชย. (2560). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุข

ประจำหมู่บ้านกับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท. วารสารบริหารงานสาธารณสุข

, 5(1), 20-38.

ไพรบูลย์ อินทมาส. (2561). ผลของค่าตอบแทนและแรงจูงใจทางสังคมต่อความมุ่งมั่นในการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุข. วารสารพัฒนาสังคม, 5(3), 102-118.

พิมพ์พิชชา สวัสดิ์วงศ์. (2563). บทบาทของระดับการศึกษาต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุข. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 9(1), 50-67.

ภาวินี บุญรักษา. (2563). ผลของการยอมรับทางสังคมต่อแรงจูงใจในการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุข. วารสารพฤติกรรมสุขภาพ, 7(1), 21-37.

มณีทิพย์ ชวิตรานุรักษ์. (2563). การสนับสนุนทางสังคมและผลกระทบต่อการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุข. วารสารสุขภาพชุมชน, 7(1), 33-49.

วราภรณ์ อภิรักษ์. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างค่าตอบแทนและความพึงพอใจในการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารวิทยาการจัดการ, 15(4), 112-129.

ศิริพร เกิดมงคล. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์การทำงานกับประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพชุมชน, 10(1), 89-105.

ศุภชัย นาคะวิโร. (2565). ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารการแพทย์ชุมชน, 14(3), 99-115.

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. (2566). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวานในประเทศไทย ปี 2566. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย.

สมชาย พงษ์พานิช. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในพื้นที่ชนบท. วารสารการพัฒนาสังคมและสุขภาพชุมชน, 12(2), 45-62

อรอนงค์ ธรรมรักษา. (2564). ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารการจัดการและนโยบายสาธารณสุข, 6(2), 99-115.

อัมพร ทองสุก. (2564). ผลกระทบของแรงสนับสนุนทางสังคมต่อการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน, 9(2), 67-82.

Smith, J., & Brown, R. (2021). Factors Affecting Community Health Workers' Performance in the United States. American Journal of Public Health, 111(4), 56-72.

World Health Organization (WHO). (2023). Global Report on Diabetes. Geneva: World Health Organization.