วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM <p><strong>วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน</strong></p> <p><strong>Journal of Interdisciplinary and Private Management</strong></p> <p><strong>ISSN: 2985-0312 </strong></p> <p><strong>กำหนดการพิมพ์</strong></p> <p> ตีพิมพ์ปีละ 3 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 ประจำเดือน มกราคม – เมษายน ฉบับที่ 2 ประจำเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ฉบับที่ 3 ประจำเดือน กันยายน – ธันวาคม</p> <p><strong>เจ้าของ</strong> : ชมรมการบริหารสาธารณะ</p> <p> </p> th-TH bluessky28@gmail.com (Dr.Suphattra Yodsurang) bluessky28@gmail.com (Dr.Suphattra Yodsurang) Sun, 31 Aug 2025 23:27:53 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/3023 <p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการพัฒนาชุมชน ตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (2) เพื่อประเมินระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ (3) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มตัวอย่าง จำนวนทั้งหมด 385 คน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสหสัมพันธ์ ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความคิดเห็นด้านปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชน ตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในภาพรวม อยู่ในระดับ มาก และด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในภาพรวม อยู่ในระดับ มาก และผลการทดสอบสมมุติฐาน พบว่า (1) ปัจจัยส่วนบุคคลของประชาชนแตกต่างกันการมีส่วนร่วม ในการพัฒนาชุมชนตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 (2) ผลการทดสอบค่าสหสัมพันธ์ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการพัฒนาชุมชนมีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีค่า VIF มีค่าอยู่ระหว่าง 1.032 ถึง 2.974 ค่าการยอมรับ (Tolerance) อยู่ระหว่าง .336 ถึง .969 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีค่าเท่ากับ 67.40 ซึ่งตัวแปรสองตัวมีความสัมพันธ์กันในทางตรงกันข้าม</p> คนึงนิตย์ รอดเรือง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/3023 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การทำงานเป็นทีมที่ส่งผลต่อการบริหารงานทั่วไป ของสถานศึกษาสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/3937 <p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อวิเคราะห์ระดับการทำงานเป็นทีมที่ส่งผลต่อการบริหารงานทั่วไปของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ (2) เพื่อวิเคราะห์ระดับการบริหารงานทั่วไปของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ (3) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานเป็นทีมกับการบริหารงานทั่วไปของสถานศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ และ (4) เพื่อวิเคราะห์การทำงานเป็นทีมที่ส่งผลกับการบริหารงานทั่วไปของสถานศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการวิจัยโดยเก็บข้อมูลจากผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 267 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณผลการวิจัยประกอบด้วย (1) ด้านระดับการทำงานเป็นทีมที่ส่งผลต่อการบริหารงานทั่วไป ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (2) ระดับการบริหารงานทั่วไปของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (3) ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานเป็นทีมกับการบริหารงานทั่วไปของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ พบว่า มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (4) ด้านการทำงานเป็นทีม ประกอบด้วย 4 ด้าน คือ ด้านการติดต่อสื่อสารด้านการร่วมมือ ด้านการประสานงาน และ ด้านการมีความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลต่อการบริหารงานทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> นฤพล เดชเพชร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/3937 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/3943 <p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 4 ประการได้แก่ (1) เพื่อวิเคราะห์ระดับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี (2) เพื่อวิเคราะห์ระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู (3) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและ (4) เพื่อวิเคราะห์วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 285 คนได้แก่ ครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียรสัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า (1) ระดับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (3) วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาด้านการเผยแพร่วิสัยทัศน์ ด้านการสร้างวิสัยทัศน์ ด้านการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูมีความสัมพันธ์กัน และ (4) วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาด้านการเผยแพร่วิสัยทัศน์ ด้านการสร้างวิสัยทัศน์ และด้านการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> อริยชัย แก้วน้ำ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/3943 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 การจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของข้าราชการธุรการ สำนักงานอัยการ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/4031 <p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ (1) เพื่อประเมินการจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของข้าราชการธุรการสำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (2) เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงาน มีความสัมพันธ์อย่างไรกับการจัดการการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานของข้าราชการสำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (3) เพื่อพยากรณ์การจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของข้าราชการสำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยปริมาณกลุ่มตัวอย่าง 300 คนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยการวิเคราะห์สหสัมพันธ์เพียรสัน การวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุ ผลการวิจัย (1) ด้านการจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของข้าราชการธุรการสำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า อยู่ในระดับมาก (2) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานกับการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานของข้าราชการสำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่าเป็นเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญระดับสูง และ (3) ด้านการพยากรณ์พบว่าการจัดการการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของข้าราชการ ได้เกินร้อยละ 69.9 โดยมีตัวแปรที่มีอำนาจการพยากรณ์ประกอบด้วยการจัดการองค์การ การพัฒนา การให้การศึกษา และภาวะผู้นำ</p> พรกนก เดชารัตน์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/4031 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/4034 <p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อประเมินความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (2) เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทองอำเภอบางสะพานน้อย กับปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (3) เพื่อพยากรณ์ความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง 197 คน จากสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สัมประสิทธิสหสัมพันธ์เพียรสัน การวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุ ผลการศึกษาพบว่า (1) ด้านความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทอง พบว่า อยู่ในระดับมาก (2) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทอง กับปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตพบว่าเป็นเชิงบวก ระดับสูงถึงปานกลางค่อนข้างสูงและ (3) ด้านการพยากรณ์ พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จสามารถพยากรณ์ ความสำเร็จในการบริหารงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านฝั่งแดง ตำบลทรายทองได้ร้อยละ 79.3 โดยมีตัวแปรที่มีอำนาจการพยากรณ์ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมประเมินผล การมีส่วนร่วมตัดสินใจ การวางแผน การมีส่วนร่วมการดำเนินงาน</p> อรนุช ขุนรัง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน https://so12.tci-thaijo.org/index.php/JIPM/article/view/4034 Sun, 31 Aug 2025 00:00:00 +0700