วารสารสหวิทยาการและนวัตกรรมการจัดการ

ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับการบริหารงานกิจการนักเรียน ของผู้บริหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์

ธนิต พงษ์รอด — 2025-08-31

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1)เพื่อวิเคราะห์ระดับการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ (2)เพื่อวิเคราะห์ระดับการบริหารงานกิจการนักเรียนของผู้บริหารสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ และ (3)เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับการบริหารงานกิจการนักเรียนของผู้บริหารสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการวิจัยโดยเก็บข้อมูลจากครูผู้สอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 271 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัย พบว่า (1) ระดับของการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2)ระดับการบริหารงานกิจการนักเรียนของผู้บริหารสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ภาพรวมอยู่ในระดับมากและ (3)ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับการบริหารงานกิจการนักเรียนของผู้บริหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ มีความสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

การบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์

นวกร จันทรรัตน์ — 2025-08-31

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์(1)เพื่อศึกษาการบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ (2)เพื่อเปรียบเทียบการบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียน จำแนกตาม ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และขนาดสถานศึกษา และ(3 )เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 264 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทีและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัย พบว่า (1)ด้านศึกษาการบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก และ (2)ด้านการเปรียบเทียบศึกษาการบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียน จำแนกตามระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และขนาดสถานศึกษา พบว่า แตกต่างกัน (3) ด้านการศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยของโรงเรียน พบว่าผู้บริหารควรมีการดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติความไม่ปลอดภัยของนักเรียนในปีที่ผ่านมา พร้อมจัดทำโครงสร้างการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษา และส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาทักษะด้านการป้องกันอัคคีภัยและการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินให้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

นวัตกรรมการจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7

พีรภรณ์ บัวทอง — 2025-08-31

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์3ประการ(1)เพื่อประเมินระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 (2)เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพการให้บริการประชาชนสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (3) เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการกับคุณภาพการให้บริการของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน ได้แก่ ผู้ประกันตนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที ค่าความแปรปรวน ทางเดียวและค่าสหสัมพันธ์เพียร์สันผลการวิจัย(1)ด้านระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 อยู่ในระดับมากที่สุด (2)ด้านการเปรียบเทียบคุณภาพ การให้บริการประชาชนสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ระดับการศึกษาและรายได้ที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณภาพการให้บริการประชาชนสำนักงาน ประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 ที่แตกต่างกัน และ (3)ด้านการจัดการมีความสัมพันธ์เชิงบวก กับคุณภาพการให้บริการประชาชนสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 พบว่า มีความสัมพันธ์เชิงบวกระดับค่อนข้างสูง

บทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2

ปานทิพย์ ดีเด่น — 2025-08-31

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์(1)เพื่อศึกษาบทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2(2)เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครูจำแนกตาม วุฒิการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และขนาดสถานศึกษา และ (3)เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะต่อบทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครู กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 274 คนได้แก่ ครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า (1)ด้านบทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครู พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (2)ด้านเปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครู จำแนกตาม วุฒิการศึกษาประสบการณ์การทำงาน และขนาดสถานศึกษา พบว่า แตกต่างกัน และ (3)ด้านข้อเสนอแนะ ผู้บริหารควรจัดอบรมพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีให้ครูอย่างต่อเนื่อง จัดหาอุปกรณ์และจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ต่อสถานศึกษา

การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา

ยลลิตา แสงจันทร์ — 2025-08-31

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้(1)เพื่อประเมินการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเทศบาลนครสงขลาจังหวัดสงขลา (2)เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศกับการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเทศบาลนครสงขลาจังหวัดสงขลา และ (3)เพื่อพยากรณ์การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ของเทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เพื่อดำเนินการวิจัยโดยเก็บข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนในชุมชนอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา จำนวน 300 คน โดยวิธีแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และสมการถดถอยเชิงพหุ ผลการวิจัยประกอบด้วย (1)ด้านการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา พบว่าอยู่ในระดับมาก (2)ด้านความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศกับการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา พบว่า เป็นเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ (3)ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศสามารถพยากรณ์ การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา ได้ร้อยละ 81.7 โดยมีปัจจัยที่มีอำนาจพยากรณ์ ประกอบด้วย ภาวะผู้นำ การวางแผน การมีส่วนร่วมในการประเมินผลและการมีส่วนร่วมใน การดำเนินงาน